
“แข้งเทพ”…ไม่มาปีนี้!! แล้วจะมาปีไหน
DST.News : ทีมที่ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะเขย่าบัลลังค์แชมป์เก่าอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “แข้งเทพ” ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด
ภายใต้มันสมองของ “มาโน่ โพลกิ้ง” โค้ชจอมบุกเลือดบราซิลเลี่ยน หลังปีที่แล้วพวกเขาจบในตำแหน่ง “พระรอง”
นับแต่ มาโน่ เข้ามาคุมบังเหียน “แข้งเทพ” เมื่อปี 2014 ได้มีการยกระดับทีมกลางตารางค่อนไปทางล่าง ให้ขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำในไทยลีก 1 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ด้วยไสตล์เดินหน้าฆ่าให้ตาย หากโดนยิงเยอะ ก็แค่ยิงให้เยอะกว่า จนในปี 2016 พวกเขาจบอันดับ 2 บนตาราง ตามหลังแชมป์ในฤดูกาลนั้นอย่าง “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด เพียง 5 คะแนน

ฤดูกาลต่อมา พวกเขาจบที่อันดับ 3 พร้อมสร้างสถิติใหม่อันเป็นที่ถูกอกถูกใจ ของบรรดา นักเสี่ยงโชคที่ชอบหยอด “สูง” เมื่อยิงประตูไปถึง 97 ลุกตลอดฤดูกาล
แต่เกมฟุตบอลแบบเปิดหน้าแลก ย่อมทิ้งบาดแผลไว้ เมื่อพวกเขาต้องเสียไปถึง 57 ประตู ทำให้ไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์ในบั้นปลาย
ขณะที่ฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาซ่อมจุดอ่อนตัวเอง ได้อย่างเหมาะเหม็ง เมื่อไปกระชากตัว “เอฟเวอร์ตัน ซาตเทินนิโน่” ปราการเหล็กจาก “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด
เช่นดียวกับ ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด นายทวารเลือดปินส์-เดนมาร์ค มาอุดรูรั่ว ทำให้เสียประตูไปเพียง 36 ลูก แต่ก็ยังไปไม่ถึงแชมป์อยู่ดี
เพราะ ฝั่งแชมป์เก่าอย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นร้อนแรงจริงๆ โดยเฉพาะเกมที่ทั้ง 2 ต้องมาตัดแต้มกันเอง ลูกทีมของ “บันซิดาร์ บันโดวิช” เก็บสถิติ ชนะ 1 เสมอ 1 ก่อนคว้าแชมป์แบบนอนมา โดยทิ้ง “แข้งเทพ” ถึง 16 คะแนน
อย่างไรก็ดี ในฤดูกาล 2019 พลพรรค “แข้งเทพ” เสริมทัพได้อย่างน่าดูชม โดยเฉพาะการคว้าตัว ทริสตอง โด,พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา สองวิงแบ็คของ “กิเลนผยอง” และ เพลย์เมคเกอร์ตัวกลั่นอย่าง อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ จาก “ปราสาทสายฟ้า” บวกกับแนวรุกอันตราย อย่าง “เนลสัน โบนีญ่า” กองหน้าดีกรีทีมชาติ เอล ซัลวาดอร์ และไมค์ ฮาเวนาร์ กองหน้าดีกรีทีมชาติญี่ปุ่นเข้ามา

ขณะที่ฟากคู่แข่งอย่าง ปราสาทสายฟ้า ต้องเสีย หัวใจสำคัญอย่าง “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” ไปลีกมาเลเซีย ที่พกดีกรี “กองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลของไทยลีก” ไปด้วย
ขณะที่กองหน้าคนใหม่ อย่าง “โมดิโบ ไมก้า” นั้น แม้ดีกรีจะไม่ธรรมดา แต่ด้วยสไตล์ที่ต่างไป ยังคงทำให้แฟนบอลเกิดเครื่องหมายคำถามว่า เขามีดีพอจะอุดรูรั่วขนาดใหญ่ ที่ “ดิโอโก40” ทิ้งไว้หรือไม่
แม้พวกเขาจะได้ นักเตะดีกรี บุนเดสลีกา อย่าง “ฮาจิเมะ โฮโซกาอิ” แต่ในวัย 32 ปี นั้นทำให้อายุเฉลี่ยของผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สูงขึ้น เป็นไปได้ว่า 11 คนแรกของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด อาจมีผู้เล่นที่อายุมากกว่า 30 ปี จำนวน 6-7 คน
ขณะที่ “แข้งเทพ”อาจมีผู้เล่นที่อายุเกิน 30 ปี เพียงคนเดียว นั่นคือ ไมค์ ฮาเวนาร์
อย่างไรก็ดีสิ่งที่ “แข้งเทพ” ยังขาดมาตลอด คือ สภาพจิตใจที่พร้อมฝ่าฟันไปถึงตำแหน่งแชมป์ หากอยากขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในไทยลีก ต้องข้ามขีดจำกัดเรื่องนี้ไปให้ได้
ยิ่งพวกเขา กระเด็นตกรอบ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ตั้งแต่ไก่โห่ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ต้องเน้นถ้วยในประเทศมากเป็นพิเศษ

สำหรับบรรดาคู่แข่งทีมอื่น ทั้ง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี, “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี, “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด น่าจะเป็นได้เพียง “ม้ามืด”ในการลุ้นแชมป์ เท่านั้น
จึงไม่เกินไป หากจะบอกว่า “แข้งเทพ” จะกลายเป็นผู้ท้าทาย ตำแหน่งแชมป์จาก “ปราสาทสายฟ้า” เพียงทีมเดียวเท่านั้น
แต่ตอนนี้สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำให้เร็วที่สุด คือการกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น หลังยังไม่สามารถคว้าชัยชนะจากเกมที่เป็นทางการได้เลย แน่นอนว่า แฟนๆบางส่วนเริ่มส่งเสียงไปยัง “ผู้บริหาร” ของทีมบ้างแล้ว
ถึงสถานการณ์ ของ บิ๊กบอสอย่าง “มาโน่” หากปีนี้พวกเขายังไม่สามารถคว้าแชมป์ที่รอมานาน หรือ ทำได้ตามมาตรฐานเดิมเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
บอกได้เลยว่า ปีหน้า ชื่อของหัวหน้าผู้สึกสอน“แข้งเทพ” จะไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อ “มาโน่ โพลกิ้ง” อย่างแน่นอน
ขอบคุณ : สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
By ใบไม้ห้าแฉก
