หลัง “เกมไทยลีก” นัดแรก…อะไร? ที่เปลี่ยนไป
DST.News : หลังจบศึกไทยลีก 1 นัดแรก มีหลายประเด็นทีน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น แฮตทริคแรก ของฤดูกาล จากปลายเกือกของ “ยานนิค โบลี่” กองหน้าป้ายแดงของ “ราชันย์มังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ที่กดใส่น้องใหม่ไฟแรง อย่าง “ช้างขาวจ้าวเกาะ” ตราด เอฟซี ในเกมเปิดฤดูกาล คว้า 3 แต้ม ล้ำค่าไปด้วยสกอร์ 3-2
เช่นเดียวกับ กรณีของ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกหนึ่งยักษ์หลับ ที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ทั้งตัวผุ้เล่น และโค้ช แต่กลับต้อง “เสียซิง” แพ้นัดเปิดฤดูกาลคาบ้าน
เป็นครั้งแรกนับแต่ก่อตั้งสโมสร “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี คือ “ของแสลง” พวกเขาเก็บ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัด ที่ต้องฟัดกับ “กิเลนผยอง” เรียบวุฒิ
ขณะที่ ทีมใหญ่ อย่าง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องพลาดคว้า 3 แต้มประเดิมฤดูกาล จากเกมสวนกลับแสนอันตรายของทีมที่มี “ดาวรุ่ง” เป็นแกนหลัก อย่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี คว้าคะแนนสำคัญมาจากแดนอีสานใต้
แน่นอนว่า การขาด “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” นั้นส่งผลเต็มๆอย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกตไว้
แต่ “แฟนบอล” ของพวกเขาเองไม่ได้ร้อนใจอะไรนัก เพราะปกติ “ปราสาทสายฟ้า” เป็นทีมที่เครื่องร้อนช้าอยู่แล้ว
นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นทีมเดียวในไทยลีกที่ครองสถิติ “ไม่แพ้ใครในเกมเปิดฤดูกาล” ทีมเดียวที่เหลืออยู่
ขณะที่ “แข้งเทพ” ทรู แบ็งค็อก ยูไนเต็ด, “สิงห์เจ่าท่า” การท่าเรือ เอฟซี, “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ล้วนมีคนละ 1 แต้ม
แต่สิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือ ทุกทีมในลีกสูงสุดของประเทศไทย ไม่มี “หมู” ให้บิ๊กทีมคอยเชือด
เรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้กับ ความเป็นมืออาชีพ และการเตรียมทีมอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะทีมน้องใหม่ ทั้ง 3 ทีม “เชียงใหม่ เอฟซี – ตราด เอฟซี – พีทีที ระยอง” แม้ไม่มีแต้ม แต่พวกเขาสู้ทีมหน้าเก่าได้อย่างสูสี และไม่ทำให้แฟนบอลที่ติดตามเชียร์ ต้องเสียความรู้สึก
หากใครติดตามดูหลายๆสนาม จะเห็นว่าจังหวะการเล่นที่เปลี่ยนไป ของทั้ง ทีมเล็ก-ทีมใหญ่ นั้นเป็นนิมิตหมายที่ดีในการยกระดับวงการฟุตบอลลีกไทย ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะ การสวิตซ์ จาก เกมรับ เป็น เกมรุก ได้รวดเร็ว – ไม่ต้องเสียเวลาเซตเกมใหม่ นี่คือ ส่วนสำคัญที่ทำให้แฟนบอล เอ็นจอยกับการรูปเกมที่ไม่น่าเบื่อ จำเจ หรือ เกมที่พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวตลอด 90 นาที
ไทยลีก กับ เกมนัดแรก บรรดานักเตะน่าจะมีความฟิตอยู่ที่ประมาณ 80% อาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน ทุกอย่างถึงจะเข้าที่เข้าทาง 100%
ขณะที่บางทีม เรายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก คงเป็น “ราชันย์มังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ดูเหมือนว่าสปีดบอลยังใกล้เคียงกับฤดูกาลที่ผ่านมา
ซึ่ง “ราชันย์มังกร” นั้น เข้าใจได้ว่า เกิดจากปัญหาการจัดการตัวหัวหน้าผุ้ฝึกสอน ที่มาเบรคแตกช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล
ขณะที่ “กิเลนผยอง” ดูเหมือนว่า “โค้ชเบ๊”ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ต้องทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ ที่รายล้อมด้วยสตาร์
แต่บอกได้เลยว่า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 นี้ จะไม่เหมือนกับการแข่งขันทุกฤดูกาลที่ผ่านมา และจะมอบความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดาแฟนบอลไปยาวๆจนจบฤดูกาลอย่างแน่นอน
ขอบคุณ สโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, พีทีที ระยอง
By ใบไม้ห้าแฉก