- Home
- Special Report
- “กำแพงเพชร” สู่เป้าหมาย ไทยลีก 2

“กำแพงเพชร” สู่เป้าหมาย ไทยลีก 2
DST.Special Report : เป็นเมืองเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองหน้าด่านของสุโขทัย มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวง เดิมเรียกชื่อว่า “เมืองชากังราว”
ที่สำคัญ คนอาจไม่ค่อยทราบ หรือรู้ว่า “กำแพงเพชร” คือ เมืองที่สองที่ “สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” เคยครองเมือง มีบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาวชิรปราการ” อันแปลตรงตัวกับชื่อจังหวัดในปัจจุบัน
ขณะที่ในวงการฟุตบอล “กำแพงเพชร เอฟซี” ไม่ใช่น้องใหม่แบเบาะ หรืออ้อแอ้ตั้งไข่ แต่เป็นทีมที่เติบโตมาพร้อมๆ กับไทยลีกในยุค “สังคายนา” เมื่อปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่สโมสรจังหวัดก่อตั้งทีมมากที่สุด
ในปี 2009 ที่การกีฬาแห่งประเทศไทยหวังพัฒนาลีกรากหญ้าด้วยการจัดโปรแกรม “ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2” ขุนพลชากังราวก็อุบัติขึ้นตั้งแต่บัดนั้น
ในยุคเริ่มแรกดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือที่มีบรรดาทีมเจ้าสัวเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชียงราย ยูไนเต็ด, ชัยนาท ฮอร์นบิล, พิจิตร เอฟซี และเชียงใหม่ เอฟซีนั้น “กำแพงเพชร เอฟซี” ใช้ขุมกำลังหลักส่วนใหญ่คือ “แข้งเยาวชน”

บางแมตซ์เด็กบางคนในทีมยังไม่ถึงวัย “เกณฑ์ทหาร” ด้วยซ้ำ แต่สามารถโชว์ฟอร์มปั่นป่วนแนวรับของฝั่งตรงข้ามจนเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ
อารมณ์ร่วมของแฟนบอล “เมืองชากังราว” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีสูง โดยเฉพาะเมื่อทีมรักไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ตัดสิน หรือตัดสินค้านสายตา
“นักรบชากังราว” เป็นทีมระดับกลางๆ ในยุคแรกเริ่ม จบอยู่กลางตารางเสียเป็นส่วนใหญ่สมัยยังเป็นลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนือ
ปัจจุบัน “ทัพกำแพงเพชร” ปราการด่านสำคัญในสงครามรบตั้งแต่อดีต โลดโผนอยู่ในศึกออมสินลีกโปร “ไทยลีก 3” ตอนบน โดยฤดูกาล 2018 พวกเขาจบอันดับที่ 11 หรือเกือบก้นตาราง
ทว่ามาในปีนี้ พวกเขากลับเริ่มต้นได้สวย หลังผ่าน 2 นัด เก็บได้ 4 คะแนน โดยนัดประเดิมสนามบุกไปเสมอสระแก้ว เอฟซี 1-1 และเปิดรัง “ชากังราว สเตเดี้ยม” ล้างแค้น “ปลากัดสู้” ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ได้ 1 ต่อ 0 หลังในฤดูกาล 2017 เคยถูกยำเละเทะ 5 ต่อ 0
นอกจากนี้ ยังกุมชัยเหนือ “ดาบหักพิฆาต” อุตรดิตถ์ เอฟซี จากไทยลีก 4 โซนเหนือ ในการศึกโตโยต้าลีกคัพ 2019 ไป 1 ต่อ 0 ซึ่งเท่ากับว่า 3 นัดแรกในศึกอย่างเป็นทางการ “นักรบชากังราว” ยังไม่พลาดท่าปราชัยให้ใครเลย
ภายใต้การบริหารทีมของ “เศกสรรค์ ศิริพงษ์” อดีตผู้รักษาประตูชื่อดัง ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งสร้างทีม ใช้เยาวชนในท้องถิ่นเป็นแกนหลัก

จนพัฒนามาถึงปัจจุบัน ปีนี้พวกเขาจัดสรรเป็นระบบ โดยมีการแต่งตั้ง “เฮียชุม” วีระ เอื้อจิตญานนท์ ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ เพื่อแบ่งเบาภาระ “โค้ชเสก” มีการดึงแข้งคุณภาพเข้าสู่ทีมมากมาย
แต่ยังไม่ละทิ้งนโยบายผลักดันเยาวชนเพื่อผสมผสานกันไป โดยปีนี้ “กำแพงเพชร” เสริมทัพได้น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็นแข้งต่างชาติ ที่มีการดึงปราการหลังชาวญี่ปุ่น “Kojima Ryusei”, Robert de sousa Brasil, Hossiem Iran
ส่วนผู้เล่นไทย ก็เสริมจำจนวนมาก ทั้งทิวา เหนือเกตุ, สิรวิชญ์ สวนเพลง มิดฟิลดาวรุ่งจากกาญจนบุรี, พลากร วอกลาง ปีกจรวดจากขอนแก่น, ภัสกร ศรีแก้วนิน มิดฟิลด์จากอุดรธานี รวมไปถึง ชานุวัต โพแตง ศูนย์หน้าวัยกระเตาะ จากเพชรบูรณ์
โดยเฉพาะ “ทิวา เหนือเกตุ” แข้งผู้คว่ำหวอดในลีกภูมิภาคโซนเหนือ และผ่านประสบการณ์กับทีมใหญ่ๆ มาจำนวนมาก และยังเป็นผู้ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้ “ฉะเชิงเทรา”
ขณะที่ “โกกิ นาริตะ” แสดงเพลงแข้งได้อย่างน่าประทับใจ พิสูจน์ให้เห็นว่า การผ่านการค้าแข้งในบุนเดสลีก้า 3 สามารถช่วยยกระดับ “กำแพงเพชร” ได้
ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาออกสตาร์ทได้ดี เพราะนี่คือปีที่ “กำแพงเพชร” วางเป้าเอาไว้สูงนั่นคือ การหลุดพ้นลีกราหญ้าไปเล่นลีกพระรองอย่างไทยลีก 2 เป็นครั้งแรก.
เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ Kamphaengphet FC
