ที่มา “บ้านคุณแม่” ด้วยแรงศรัทธาและหัวใจเดียวกัน

DST.Special Interview :  “บ้านคุณแม่ เอฟซี” ทีมในศึก ออมสินลีก 2019 (T4)  ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูเท่าใด แต่หากเอ่ยถึง “โคปูน วอริเออร์”  น่าจะพอร้อง อ๋อ..

เพราะ “โคปูน วอริเออร์” หรือ “สิงห์บุรี โคปูน” เป็นทีมที่เล่นในลีกล่าง โซนกรุงเทพและปริมฑล แม้ผลงาน ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง แต่ประเด็นที่ทำให้ แฟนบอลรู้จัก คือ ปัญหาภายในทีม จนต้อง โอนสิทธิ์ทำทีม  ให้กับ “คนที่ดูแลไหว”

และคนที่ดูแลไหว รายนั้นคือ “ทีมบ้านคุณแม่” ของ “จ่าแบต – พ.อ.ต.ธีรพงศ์ พรรณศิลป์” ที่ก่อนหน้านั้น เป็นเพียง “คนรักฟุตบอล” และ “ส่งทีมแข่งบอลเดินสาย”  ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม

แล้วเหตุผลอะไร? ที่ทำให้ “จ่าแบต” ต้องขวนขวาย เข็นทีมเดินสาย เข้าสู่ลีกอาชีพ ชื่อเสียง? เงินทอง? หรือประโยชน์อะไร?

DailySoccerThailand มีคำตอบ ในข้อสงสัยเหล่านั้น

กว่าจะมาเป็น “หมูเขี้ยวตัน – บ้านคุณแม่ เอฟซี”

จ่าแบต เล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ  7 ปีที่แล้ว หลังจาก โอนย้ายสังกัดทหาร สู่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ของบ้านเกิด คือ จ.มหาสารคาม ด้วยแนวคิดที่อยากสร้างเวทีให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด ไอเดียตั้งทีมฟุตบอล จึงเกิดขึ้น บวกกับเป็นคนชื่นชอบ และ มีใจรักฟุตบอลเป็นทุนเดิม ทำให้แนวคิด เปลี่ยนเป็น ภาคปฏิบัติ

แม้ผลงาน “บอลเดินสาย” จะประสบความสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่สิ่งที่ “จ่าแบต” ทำสำเร็จอย่างมาก คือ การสร้างเวทีและเปิดโอกาสให้เด็กในท้องถิ่น รู้จักกับกีฬาฟุตบอล ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเป็นใบเบิกทางสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

ที่มา…ชื่อทีม “บ้านคุณแม่ เอฟซี”

ช่วงเตะบอลเดินสาย ไม่มีชื่อทีมที่ตั้งอย่างเป็นทางการ เพราะจะเปลี่ยนไปตามผู้สนับสนุนการแข่งขัน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่จุดตั้งต้น คือ จุดรวมพลนักเตะ ก่อนแข่ง คือ  บ้านของคุณแม่จ่าแบต “คุณแม่พิกุล พรรณศิลป์” ดังนั้นเมื่อใครถามว่า เจอกันไหน จะบอกกันว่า “บ้านคุณแม่”

เมื่อ “จ่าแบต” ยกระดับทีมจากบอลเดินสาย สู่ลีกอาชีพ ที่เริ่มตั้งแต่ ศึกอเมเจอร์ลีก เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำให้เขาตั้งใจใช้ “บ้านคุณแม่” เป็นชื่อทีม  เพื่อสื่อให้เห็นถึงความศรัทธา และ รวมใจเป็นหนึ่งเดียว

ตอนนี้ “แม่พิกุล” ถือเป็นศูนย์รวมกำลังใจของนักเตะ ฐานะ ประธานที่ปรึกษาของสโมสรบ้านคุณแม่ เอฟซี และจะตามเชียร์นักเตะของทีมอย่างสม่ำเสมอ โดยมีคำพูดเพื่อส่งกำลังใจให้นักเตะ ว่า “ให้เชื่อมั่นในศรัทธา สู้ไปด้วยกัน”

และนอกจาก “คุณแม่พิกุล” ผู้เป็นขวัญกำลังใจ “จ่าแบต” ยังมี เพื่อนคู่บุญร่วมสร้างทีมมาด้วยกัน คือ พ.จ.อ.ณัฐพล ชูสกุล หรือ จ่าแนต ผู้จัดการทีมบ้านคุณแม่ เอฟซี รุ่นน้องที่คลุกคลีตั้งแต่เด็ก และ มีโอกาสร่วมงานในสายอาชีพ และ สายฟุตบอล

เวทีสร้างเด็กบ้านนอก สู่ ลีกอาชีพ

แม้ตอนนี้ “บ้านคุณแม่ เอฟซี” เลือดแท้ถิ่นอีสาน จะยังไม่ได้สิทธิ์ย้ายไปเล่นในโซนของตัวเอง เพราะตามกติกาของสมาคมฟุตบอลฯ ต้องเล่นใน โซนกรุงเทพและปริมลฑล ตามสิทธิของ “โคปูน” และใช้สนามของ “อ.เสนาฯ จ.อยุธยา” เป็นรังเหย้า อีก 1 ปี ก่อนจะโอนย้ายได้

เชื่อหรือไม่ว่า ทัพนักเตะบ้านคุณแม่ คือ คนในท้องถิ่น จ.อยุธยา เป็นส่วนใหญ่ รองลงมา คือ เด็กในถิ่นอีสาน ทั้ง มหาสารคาม, กาฬสินธุ์ และหลายคนในชุด 2019 คือ นักเตะคู่บุญ รุ่นบุกเบิก  ทั้ง ชัชวาลย์ ทิพฤาชา , ธนาวุฒิ ปัตโต, วัชรากร ประทุมสังข์ , อนิรุทธิ์ จันทร์แดง, ธนดล ชูสกุล นอกจากนั้นคือ เด็กเยาวชน รุ่น 14 – 19 ปี ตัวโรงเรียนวาปีปทุม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ที่เป็นเด็กปั้น ส่งแข่งรายการฟุตบอลเยาวชน และเด็กที่มีแววดี จึงถูกดึงเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ เพื่อบ่มเพาะให้เป็นนักบอลที่มีศักยภาพเข้าสู่ลีกอาชีพ

เป้าหมายของ “ทีมบ้านคุณแม่ เอฟซี”

ฤดูกาล 2019 วางเป้าหมายให้จบ Top4 ของโซน แต่จะไม่นำเป้าหมายนั้นไปกดดันน้องๆ  เพราะต้องการใช้เวทีแข่งขันเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์ ผลักดันนักเตะเยาวชนเข้าสู่ระบบมืออาชีพ

กับ 2 เกมแรกที่เปิดฤดูกาล (เกมแรก พ่ายมหาวิทยาลัยปทุมธานี 1:0, เสมอมหาวิทยาลัยรังสิต 0:0) แม้ยังเก็บ 3 แต้มไม่ได้ สิ่งที่ “จ่าแบต” ประเมิน คือ นักเตะมุ่งมั่นเกินไป จนกลายเป็นภาวะกดดันตัวเอง ดังนั้นเกมต่อไปต้องแก้ไขข้อบกพร่อง คือ เน้นสมาธิในเกม ซึ่งเชื่อว่าในระยะยาวเป้าหมายที่ปักหมุดไว้ จะไม่ไกลเกินจริง

 ฝากถึงแฟนบอล

ในปีหน้า 2020  เชื่อว่าการทำเรื่องย้ายโซนเตะ ไปที่ อีสาน จะประสบความสำเร็จ เพราะครบตามเงื่อนไขที่สมาคมกีฬาฟุตบอลกำหนดฯ โดยขณะนี้ทีมเตรียมพร้อมเรื่องสนามเหย้าไว้แล้ว คือ สถาบันการพละศึกษา จ.มหาสารคาม ดังนั้นเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย การสร้างและวางรากฐานให้เยาวชนด้านฟุตบอลจะเป็นไปในทิศทางทีดีแน่นอน

“ส่วนปีนี้ อยากให้แฟนบอลชาวเสนา ส่งกำลังใจให้น้องๆ ในทีม โดยทีมงานทุกคนพร้อมจะทำงานให้เต็มที่ เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนบอลที่ตามเชียร์ทีมอย่างแน่นอน”

ขอบคุณ : สโมสรฟุตบอลบ้านคุณแม่ เอฟซี
By BlackSugar