• Home
  • News
  • สิ่งที่ “ราเยวัช” ทิ้งไว้ให้ “ช้างศึก”

สิ่งที่ “ราเยวัช” ทิ้งไว้ให้ “ช้างศึก”

By on January 12, 2019 0 5774 Views

DST.News Report : ชัยชนะของ “ทัพช้างศึก” เหนือ “กองทัพแดง” บาห์เรน 1-0 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติไทยกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง

หลังชอกช้ำโดน อินเดีย ล่วงละเมิดไปถึง 4 ประตู นอกจากนี้ 3 แต้มดังกล่าว

ยังทำให้ ไทย มีโอกาสเข้ารอบต่อไปในฐานะทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด เพราะเอเชียนส์ คัพ ครั้งนี้ ให้โอกาส ถึง 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม

ขณะที่เงื่อนไขเดียวที่ “ช้างศึก” จะต้องกลับบ้านก่อนใครเพื่อน ในฐานะบ๊วยกลุ่ม ก็ต่อเมื่อแพ้ ยูเออี แล้ว ผลอีกคู่ “บาห์เรน” สามารถชนะ “อินเดีย” ได้ และนั่นหมายความว่า “ช้างศึก” จะตกรอบทันที (1.ยูเออี 7 คะแนน 2.บาห์เรน 4 คะแนน 3. อินเดีย 3 คะแนน 4.ไทย 3 คะแนน)

ทั้งนี้ หากไทยยันเสมอได้ ก็จะไม่จบอันดับ 4 แน่นอน

และถ้าผลอีกคู่ บาห์เรนสามารถชนะอินเดียได้ จะส่งให้ “ช้างศึก” เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มทันที (1.ยูเออี 5 คะแนน 2.ไทย 4 คะแนน 3. บาห์เรน 4 คะแนน 4.อินเดีย 3 คะแนน)

หมายความว่า โอกาสสำหรับเรายังเปิดกว้าง

“โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ สองดูโอผู้ชุบชีวิตทีมชาติกลายเป็นชื่อที่ถูกยกย่องจากทั่วสารทิศ ไม่ต่างอะไรกับ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชา” ที่ได้โอกาสกลับมาชุมชีวิต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกครั้ง

แน่นอนว่าในมุมของเสียงสาปส่งของ “มิโลวาน ราเยวัช” และ “โชเซ่ มูริญโญ่” เองก็ไม่ได้ต่างกัน

การกลับมาใช้แผน 3-5-2 อีกครั้ง ช่วยขันเกมรับของ “ช้างศึก” ให้แน่นมากขึ้น โดยเฉพาะ 3 เซ็นเตอร์แบ็คอย่าง อดิศร พรหมรักษ์,พรรษา เหมวิบูลย์ และ สุพรรณ ทองสงค์ ที่ช่วยกันป้องกันเกมสวนกลับของ บาห์เรนได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ วิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง อย่าง คริสตอง โด และ ธีราทร บุญมาทัน  นั้น ได้พิสูจน์ตัวเองถึงคุณภาพที่อัดแน่นอยู่ในตัว ทั้งเกมรุกและเกมรับ และตอกย้ำว่า 2 หน่อนี้ คือ คู่แบ็คซ้าย-ขวา ที่ดีที่สุดเท่าที่เรามีอยู่ตอนนี้

ขณะที่การเล่นเกมรับของผู้เล่น ไล่ตั้งแต่แนวรุก คือ ธีรศิลป์ แดงดา และ อดิศักดิ์ ไกรษร สองคู่กองหน้าของเรา รวมถึง ชนาธิป สรงกระสินธิ์ สลับกันไล่บดคู่แข่งยามที่เราไม่ได้ครองบอล

ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ เราไม่ได้เห็นบ่อยนัก ในยุคของ โค้ชไดโนเสาร์ อย่างราเยวัช

เนื่องจากเจ้าตัวเน้น ให้แนวรับ ลงไปตั้งรับลึก ทำให้ภาระต้องตกอยู่กับมิดฟิลด์ ทำหน้าที่สกรีนบอลก่อนถึงแผงหลัง

อย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ซึ่งผลงานในที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า ไม่เวิร์ค

และอีก หลากเหตุผลสารพัด ที่ กุนซือ จากยุโรปตะวันออกโดนสับเละไม่มีชิ้นดี ลามไปถึง ประมุขลูกหนัง อย่าง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง

แต่ท่ามกลางเสียงก่นด่า อย่าลืมว่า!! เจ้าตัวเองทิ้งมรดกให้เราได้ไปต่อยอด เพื่อเพิ่มความหลากหลาย

อย่าง การเล่นลูกเซตพีซ และ เล่นเกมรับ

ในยุคของ ราเยวัช เป็นสิ่งที่นักเตะไทยได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้ประโยชน์ยามได้ลูกฟรีคิก

โดยเฉพาะตอนเจอทีมระดับทวีป แต่ในยุคของ ราเยวัช นั้นมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เรามีจังหวะลุ้นจากลูกนิ่งมากกว่าเดิม และกลายเป็นอาวุธใหม่ของ ช้างศึก จากเดิมที่ตกม้าตายอยู่เสมอๆ


ไม่แน่ว่าเกมเจอกับ “เจ้าภาพ” อย่าง ยูเออีที่เป็นเกมชี้ชะตา สิ่งที่ราเยวัช ทิ้งไว้ให้ อาจเป็นตัวตัดสิน และพิสูจน์ว่า ทีมชาติไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น และ ดีพอจะเป็น 16 ทีมสุดท้ายของทวีปเอเชีย.


ขอบคุณ FA Thailand

By ใบไม้ห้าแฉก

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *