• Home
  • Special Report
  • ไทยลีก-ไทยหาย “11 ปี” มีนักเตะไทยแค่ 2 คน คว้า “ดาวซัลโว”

ไทยลีก-ไทยหาย “11 ปี” มีนักเตะไทยแค่ 2 คน คว้า “ดาวซัลโว”

By on December 25, 2018 0 1026 Views

DST.Special Report : การกลับมาสู่ “แผ่นดินแม่” ของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าหมายเลข 1 ทีมชาติไทย หลังไปค้าแข้งกับยอดทีมในเจลีกอย่าง “ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า” ทำให้แอบคิดเล่นๆ ว่า นี่อาจเป็นปีที่ทำเนียบดาวซัลโวของ “ไทยลีก” จะมีนักเตะไทยขึ้นไปเบียดกับบรรดา “เพชฌฆาตต่างแดน” ได้อย่างสูสี

แน่นอน “เจ้ามุ้ย” อาจโรยราจากอายุอานามที่ห่ามขึ้น ผนวกกับแนวทางของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปีนี้ที่ยังไม่รู้ว่า ตั้งใจแค่ไหนกับการ “ท้าชิง” ความยิ่งใหญ่กับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในบรรดาศูนย์หน้าชาวไทย แม้จะมีเพชรเม็ดใหม่เกิดขึ้นหลายคน ทว่านาทีนี้ ทุกคนต่างยังยอมรับว่า “เจ้ามุ้ย” ยังคงเป็น “นัมเบอร์วัน” ของช้างศึกโขลงนี้อยู่

ที่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ นั่นเพราะตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ตำแหน่งดาวซัลโวของไทยลีก อยู่ในการครอบครองของ “แข้งอิมพอร์ต” เสียส่วนใหญ่ ขณะที่ศูนย์หน้าชาวไทยแทบจะไม่ติดในอันดับ 1-4 คนแรก

และ “เจ้ามุ้ย” คือ นักเตะชาวไทยคนสุดท้ายที่ได้รางวัลนี้ไปครอง ซึ่งต้องย้อนไปถึง 7 ปีที่แล้ว ในฤดูกาล 2555 นู่นเลย โดยทำได้ 24 ประตู เท่ากับเพื่อนร่วมทีม “เคลตัน ซิลวา” ชาวบราซิล

โดยหลังจากฤดูกาล 2556 จนถึง 2561 ที่เพิ่งรูดม่านปิดฉากไป ตำแหน่งดาวยิงสูงสุดถูกสลับหน้าโดยผู้เล่นต่างชาติทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะ “เมด อิน บราซิล”

ปี 2556 ดาวซัลโวตกเป็นของ “คาร์เมโล่ กอนซาเลซ” ศูนย์หน้าชาวสเปน ของ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่ซัดไป 23 ประตูจาก 32 นัด, ปี 2557 ตกเป็นของ “เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส” ดาวยิงเลือดแซมบ้า ของ “ราชบุรี มิตรผล เอฟซี” ที่ยิงไป 26 ประตูจาก 38 นัด

ปี 2558 “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” หอกชาวบราซิลของ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” หยิบมันไปครองด้วย จำนวน 33 ประตูจาก 34 นัด ส่วนในปี 2559 “เคลตัน ซิลวา” ของ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” คว้าไปครองด้วยจำนวน 27 ประตูจาก 31 นัด

ปี 2560 ถูกเปลี่ยนมือจากนักเตะแดนกาแฟ มาอยู่ในมือแข้งยุโรปอย่าง “ดราแกน บอสโควิช” ของ “แบงคอก ยูไนเต็ด” ด้วยจำนวนประตูมโหฬาร 38 ลูก ก่อนที่ในปี 2561 ซึ่งเป็นฤดูกาลล่าสุด “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” ของ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” จะกลับมาครองได้อีกครั้งด้วยจำนวน 34 ประตู

ย้อนกลับไปก่อนที่ “เจ้ามุ้ย” จะกระโดดมาแทรกในฤดูกาล 2555 โดย 2 คนก่อนหน้าที่คว้าไปได้ต่างเป็นนักเตะต่างชาติผิวสี ก็คือ “แฟรงค์ โอฮันซ่า” ดาวยิงชาวแคเมอรูน ของ “บุรีรัมย์” สมัยยังเป็น “พีอีเอ” ด้วยจำนวน 19 ประตู ในฤดูกาล 2554 และ “ลูโดวิค ทาคาม” ดาวยิงสัญชาติเดียวกัน ของ “พัทยา ยูไนเต็ด” ในปี 2553 จากจำนวน 17 ประตู

นักเตะไทยคนก่อนหน้า ที่เคยผงาดคว้าดาวซัลโวก่อนที่ “เจ้ามุ้ย” จะทำได้ในปี 2555 ต้องย้อนไปฤดูกาล 2552 ที่ “อานนท์ สังสระน้อย” จาก “บีอีซี เทโร ศาสน” สามารถคว้าตำแหน่งดังกล่าวได้ 2 ปีติดต่อกัน โดยฤดูกาล 2551 “อานนท์” ยิงไปได้ 20 ประตู และปี 2552 จำนวน 18 ประตู

เท่ากับว่า 11 ปีหลังมีนักเตะไทยที่เคยสัมผัสตำแหน่งนี้แค่ 2 คน คือ “อานนท์” และ “เจ้ามุ้ย” โดยรายแรกแขวนสตั๊ดไปแล้วเมื่อต้นปี

ขณะที่ “เจ้ามุ้ย” ยังคงโลดแล่นอยู่ เพียงแต่ว่า ในตลอดระยะ 10 ปีมานี้ ต่างจากยุคก่อนๆ เพราะปัจจุบันมีแข้งฝีเท้าดี หนักไปทาง “โหด” มาวาดลวดลายในไทยลีกจำนวนมาก การเบียดหรือคั่วตำแหน่งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

ส่วนฤดูกาลที่จะมาถึงจะมีนักเตะไทยคนใดขึ้นไป “แทรก” นักเตะต่างชาติ คว้าความเป็นศูนย์หน้าเบอร์ 1 ไทยลีก กลับมาได้หรือไม่ ต้องติดตามชม.


เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *