• Home
  • News
  • “ยานนิค โบลี่” ผู้(จะ)เข้ามาปิดช่องว่างของ“แฮเบอร์ตี้”

“ยานนิค โบลี่” ผู้(จะ)เข้ามาปิดช่องว่างของ“แฮเบอร์ตี้”

By on December 14, 2018 0 2170 Views

DST.News : ภายหลังการย้ายที่ทำกินของ “แฮเบอร์ตี้ เฟอร์นันเดซ” บราซิลเลี่ยนซ้ายพิฆาต จาก “ราชันย์มังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี สู่ตะวันออกกลาง ก่อนจะกลับมา โชว์ฟอร์มสุดยอดเป็นคำรบสองในเมืองไทย กับต้นสังกัดใหม่ อย่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่ง “หลุมดำ” ที่เจ้าตัวทิ้งไว้ที่เมืองโอ่ง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยังคงไม่มีกองหน้าคนใดจะเข้ามาเติมเต็มได้

หลากแนวรุก ที่ตัดสินใจเอาชื่อมาทิ้งไว้ที่ “เมืองโอ่ง” อย่าง “เอ็ดการ์ มาร์นูชายาน” แข้งดีกรีทีมชาติ อัลเมเนีย และเคยผ่านเวทียูฟ่าแชมเปียนส์ ลีกมาแล้ว,”เกอร์มัน ปาเชโก้” ศูนย์หน้า อาร์เจนไตน์ ที่เป็นเด็กปั้นของ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด และมีประสบการข้นคลั่กจากแดนกระทิงดุ,แอนดี้ คีโอห์ กองหน้าไอริช ที่ผ่านเวที แชมเปียนชิพและลีกวัน มาแล้ว กับทั้ง ลีดส์ คาร์ดิฟฟ์,วูล์ฟแฮมตัน, มิลล์วอลล์ และแบล็คพลู พวกเขาเหล่านี้ แม้ดีกรีจะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่อานิสงฆ์จากโปรไฟล์เหล่านั้นไม่สามารถนำมาใช้ได้ที่เมืองโอ่งเลยสักนิด

บางคนยังไม่ทันได้ลงเล่น ก็มีอันต้องเก็บกระเป๋าลา จ.ราชบุรี ไปเสียแล้ว ขณะที่บางคน ได้โอกาสลงสนาม ก็ไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่แฟนบอลหวังไว้ หรือ ใกล้เคียงแม้เสี้ยวนึง ที่ “แฮเบอร์ตี้” ทำไว้

ที่ใกล้เคียงหน่อยก็น่าจะเป็น “ยานนิค ยาโล” แข้งดีกรีทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ และเคยผ่าน เวทียูฟ่าแชมเปียนส์ ลีกมาแล้ว หลังทำไป 15 ประตู จาก 26 นัด ในปีแรก ก่อน ก่อนย้ายกลับไปหาความท้าทายที่บ้านเกิด กลับ วิคตอเรีย เซตูบัล ก่อนที่ในปี 2018 จะกลับมาตายรังที่ “มิตรผล สเตเดียม” อีกครั้ง ซึ่งผลงานในคำรบสอง นั้น ก็ยังไม่เป็นที่ถูกใจแฟนบอลแต่อย่างใด

และล่าสุด กับ “ความหวังใหม่” อย่าง “ยานนิค โบลี” กองหน้าร่างยักษ์ อดีตเยาวชนของ ปารีส แซง แชร์กแมง ในยุคที่เงินจากน้ำมันยังไม่มาคลุม “ปาร์ค เดอ แพรงซ์”

กองหน้าสัญชาติ ไอเวอรี่ โคสต์วัย 30 ปี พกดีกรีไม่ธรรมดามาเหยียมเมืองไทย เมื่อเจ้าตัวเคยผ่านประสบการณ์ ค้าแข้งมาอย่าง “โชกโชน“ กับทั้ง ปารีส แซง แชร์กแมง,เลอ อาฟร์,นีมส์ 3 สโมสร แห่งเมืองน้ำหอม ซึ่งไม่ได้มีผลงานอะไรที่น่าประทับใจ ในแง่ของจำนวนประตูเมื่อเจ้าตัวลงเล่นเกมเป็นทางการไป 41 นัดทำไป 5 ประตู

ก่อนจะตัดสินไปชุบตัวในดิวิชั่น 5 ของประเทศ บัลแกเรีย กับ “เชอร์โนโมเรท” ซึ่งเจ้าตัวได้โอกาสลงสนามไป 21 นัด ทำไป 8 ประตู แต่ด้วยรุปร่างที่สูงใหญ่ สามารถสร้างประโยชน์ให้กับทีมมากกว่า การยิงประตู “ซอร์ย่า ลูฮันค์” สโมสรจากลีกยูเครนจึงตัดสินใจ คว้าตัวเขาไปขัดเกลาต่อ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเจ้าตัว หลังทำไป 14 ประตู จาก 29 นัด

ฟอร์มการเล่นในยูเครน จึงไปเตะตาสโมสรจากประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยจะถูกกันนัก อย่าง “อันจิ มาร์คัชคาล่าห์“ ทีมมหาเศรษฐี(ขณะนั้น ก่อนจะถังแตกในเวลาต่อมา) จากรัสเซีย ที่นี่เจ้าตัวมีโอกาสแสดงผลงานถึง 62 นัด ใน 3 ฤดูกาล ทำไป 26 ประตู และถือว่าเป็นช่วงชีวิตค้าแข้งที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเจ้าตัว ระหว่างปี 2014-2017 พร้อมโกยเงินเข้ากระเป๋าอย่างอู้ฟู่

ปีต่อมา ชีพจรลงเท้าเจ้าตัวอีกครั้ง เมื่อ “ต้าเหลี่ยน ยี่ฟาน” ทีมใน ไชนีส ซูเปอร์ลีก ตัดสินใจคว้าตัว เจ้าของความสูง 194 ซ.ม.ไปร่วมทีม ด้วยมาตรฐานของลีกที่ลดลงจากเดิมทำให้เจ้าตัวทำไปถึง 16 ประตู จาก 24 เกม ก่อนจะข้ามทวีปไปหากิน กับ โคโรลาโด ราปิดส์ ใน สหรัฐอเมริกา และมาลงเอยมา “ราชันย์มังกร” ในท้ายที่สุด

นอกจาก ร่างกายที่ กำยำ สูง ยาว เข่า ดี แล้ว จุดเด่นอีกอย่างคือ เรื่องเทคนิค ที่เจ้าตัวมักจะโชว์ให้แฟนบอลเห็นอยู่เนืองๆ ทั้งการสับขา หรือ ทริกแปลกๆ ที่เอาไว้หลอกล่อกองหลังคู่แข่งจนหัวทิ่ม นอกจากนี้เจ้าตัวยัง(พอจะ)มีความเร็ว ในการสปรินท์ ในพื้นที่สุดท้ายก่อนจะเข้าระยะสังหารอีกต่างหาก ไม่ใช่ยืนทื่อเป็นเสาโทรเลขอย่างที่หลายคนคิด เมื่อนึกภาพกองหน้าตัวใหญ่

ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไม่มีอะไรมาการันตีอยู่ดีกว่า นักเตะป้ายแดงของ “ราชันย์มังกร” จะโชว์ฟอร์มได้สมราคากับที่เขาโฆษณากันหรือไม่ แต่ในฐานะแฟนบอลราชบุรีคนหนึ่ง ขอแค่ “โบลี่” ทำผลงานได้ 7 ใน 10 ที่แฮเบอร์ตี้ เคยทำไว้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วละ.


BY : ใบไม้ห้าแฉก

 

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *