เปิดใจ “เสี่ยต้อม”วัฒนา ช่างเหลา ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่ง ขอนแก่น ยูไนเต็ด
DST. Exclusive : ถือเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่น่าจับตามองสำหรับ “เสี่ยต้อม”วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สามารถนำทีมกลับมาสร้างความคึกคักให้กับชาวขอนแก่นได้อีกครั้งหลังจากต้องพักทีมไป 2 ปี แถมการกลับมาครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องลงไปเล่นใน T4 แต่ก็ไม่มีปัญหา แค่ปีเดียวก็สามารถพา “จงอาง”กลับมาผยอง เลื้อยขึ้น T3 ได้
วันนี้ DailysoccerThailand มีบทสัมภาษณ์พิเศษของ “บิ๊กบอสจงอางผยอง” เกี่ยวกับการทำทีม และมุมมองแบบคนรุ่นใหม่
“เสี่ยต้อม”เล่าให้เราฟังว่า ก่อนที่จะมาทำทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด สมัยนั้นมีทีม ขอนแก่น เอฟซี อยู่แล้ว แต่ผลงานไม่ได้ดีอะไร เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าจ. ขอนแก่นถือเป็นเมืองใหญ่ และเป็นหัวเมืองของภาคอีสาน แต่ทำไมทีมเราถึงอยู่แค่นี้ เลยเกิดแนวคิดว่า อยากปฏิวัติวงการฟุตบอลขอนแก่น อยากทำทีมบอล ให้คนรู้จักจังหวัดขอนแก่น จนเกิดทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ดขึ้นมา ในปี 2558
“จริงๆผมจบปริญญาตรี วิศวกรรมโยธา และปริญญาโท สขาวิศวกรรมการบริหารและการก่อสร้าง จาก มหาวิทยาลัย พระจอมเกล้า ธนบุรี ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับการทำทีมฟุตบอลโดยตรง แต่มันก็มีบางอย่างที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เช่น มุมมองหรือการคิดวิเคราะห์ และด้วยพื้นฐานที่ตัวเองชอบฟุตบอลและติดตามฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เราพอที่จะรู้แนวทางและเข้าใจวิถีของฟุตบอล”
โดยทีมขวัญใจของ“เสี่ยต้อม”นั้นก็คือ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เขานั้นตามเชียร์มาตั้งแต่วัยเยาว์ในช่วงต้นยุค 90 ด้วยสไตล์การเล่นอันสวยงามและดุดันประสบความสำเร็จมากมาก ส่วนนักเตะที่ชอบนั้นก็คือ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตตำนานของทีม
นอกจากนี้ หากเอ่ยชื่อของ วัฒนา ช่างเหลา หลายคนจะรู้จักเขาในบทบาทของ รองนายกอบจ.ขอนแก่น ที่เขาดูแลงานด้านกองช่างมานานกว่า 6 ปีแล้ว
“งานบริหารที่อบจ.ก็ถือเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่นำมาปรับใช้กับการบริหารทีมฟุตบอลได้ การทำบอลประกอบด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งกองเชียร์ การบริหาร มีหลายส่วนที่ต้องสัมพันธ์กัน ต้องบริหารทีมให้ดี เนื่องจากทีมเป็นรูปแบบเอกชน เป็นทีมที่เป็นฟุตบอลจริงๆ ทำแบบธุรกิจ ไม่ใช่ทำแบบจบๆไป แต่ต้องหวังผลระยะยาว”
“การทำทีมฟุตบอลต้องคำนึงถึงหลายอย่าง ไม่ใช่แค่แข่งให้จบๆไปเพื่อรักษาสิทธิ์ เราจะทำยังไงให้ทีมประสบความสำเร็จและแฟนบอลชอบ เพราะทีมที่ประสบความสำเร็จได้แชมป์เล่นดีไม่ได้แปลว่าแฟนบอลจะเยอะ และทีมที่ไม่ได้แชมป์เล่นไม่ดีก็ไม่ใช่ว่าแฟนบอลจะไม่ตามเชียร์ ดังนั้นเราต้องทำให้มันสมดุลกัน”
ส่วนโครงสร้างของทีมนั้น “วัฒนา” เปิดเผยว่า สโมสรเราร่วมมือกับ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จับมือกัน มีห้องเรียนนักฟุตบอล คัดนักบอลเข้ามาเรียนเป็นโควตา และทีมเราได้ส่งสตาฟโค้ชเข้าไปร่วมฝึกสอน เหมือนเป็นอะคาเดมีของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด แบบกลายๆ โดยเริ่มมาประมาณ 3 ปีแล้ว
“ปีที่แล้วเราเซ็นเด็กเข้าทีมมา 6 คน ซึ่งหากมีโอกาสเด็กพวกนี้ก็จะเติบโตมาเล่นทีมชุดใหญ่ให้สโมสร นอกจากนี้ทีมเรายังเปิดอะคาเดสอนเด็กเองด้วย มีตั้งแต่อายุ 8-12 ปี แต่บางทีมี 5 ขวบเข้ามาร่วมด้วย”
“ เราต้องการสร้างแรงบัลดาลใจให้เด็กๆ เพราะจะส่งผลดีให้ทีมเราเองและทีมชาติด้วย หากเด็กมีแรงบัลดาลใจ ได้เล่นได้โชว์ เผลอๆเราอาจจะเจอเพชรเม็ดงามก็ได้”
ส่วนแผนระยะยาวนั้น แน่นอนว่าผู้บริหารย่อมคาดหวังที่จะพาทีมไปไกลถึงลีกสูงสุด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ “เสี่ยต้อม”หวังไว้ไม่ใช่แค่นั้น
“ฟุตบอลไม่ใช่แค่กีฬา แต่เป็นเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ที่ราคาไม่แพง ครอบครัวมีเวลาแต่ละอาทิตย์มาเจอกัน มาเจอเพื่อน เจอคนในจังหวัดเดียวกันที่สนามฟุบอล เวลาดูหนังเราอาจะต้อองจ่ายเงินหลายร้อย แต่มาดูบอลใช้จ่ายน้อยกว่า เราต้องการสร้างบรรยากาศในสนามให้สนุก ให้ทุกคนผ่อนคลายและมีส่วนร่วม คนจะได้เข้ามาเยอะๆ”
“เรามี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นตัวอย่าง เป็นไอดอล ทั้งเรื่องการทำทีม มีสนามเป็นของตัวเอง อุปกรณ์ครบครัน และเป็นธุรกิจแบบเต็มตัว แถมยังประสบความสำเร็จ ซึ่งเราจะเห็นว่ามีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เวลามีบอล คนมาดูเราสัก 3-4 พันคน ก่อนบอลแข่งหรือพอบอลจบ แฟนบอลก็ไปกินข้าว ซื้อของรอบสนาม หรือตลาดในพื้นที่ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อม”
สุดท้าย บอสใหญ่จงอาง บอกว่า ตอนนี้สนามเรายังใช้ของจังหวัด แต่แน่นอนว่าเรามีแพลนสร้างสนามเป็นของตัวเอง ตอนนี้เราสร้างสนามซ้อมอยู่ ส่วนสนามเหย้าต้องดูหลายอย่างเพราะที่ที่ขอนแก่นแพงมาก แต่มีที่ที่เราเล็งไว้อยู่ กำลังเจรจาใกล้จบแล้ว เร็วๆนี้แฟนๆคงได้ข่าวดี ถ้าทำเราจะทำต้องครบวงจรเหมือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
แฟนๆ “จงอางผยอง”ต้องรอลุ้นและตามเชียร์กันต่อไป กับผู้บริหารที่เอาจริงเอาจัง แม้ว่าตอนนี้ “เสี่ยต้อม” เตรียมที่จะลงเล่นการเมืองสนามสนามใหญ่ แต่เขายืนยันว่า จะไม่ทิ้งทีมไปไหนและจะพา “จงอาง”ตัวนี้สู่ลีกสูงสุดให้ได้!!!
ขอบคุณ สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด
BY : Grimmjow