‘วันเดอร์คิด’ แห่ง ‘นครปฐม’

DST.Special Report : เป็นทีม “รักษาคำพูด” หลังประกาศกร้าวจะขึ้นสู่ไทยลีก 3 ให้ได้ในปีเดียว แล้วมา “ตามนัด”

สำหรับ “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด 

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก ว่าปีที่ผ่านมาลูกทีมของ “โค้ชธง” ธงชัย สุโกกี เฮดโค้ชมีชื่อ ฝากวีรกรรมอะไรไว้ในไทยลีก 4  เมื่อปีก่อน

จนคนโจษจันกล่าวขานในฟอร์มอันหฤห่าม ก่อนจะจบลงด้วย “แชมป์”

แน่นอน “นครปฐม” เป็นทีมแกร่ง มีศักยภาพ ทั้งผู้เล่นและโค้ช จึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเลื่อนขึ้นชั้น ในฐานะ “จ้าวที 4” 

ดิเอโก้ โอลิเวียล่า, ประหยัด บุญญา, ธีรยุทธ งามละม้าย หรือแม้แต่ “พุดทะไซ โคจะเลิน” ไอ้หนูอิมพอร์ตจากบ้านพี่เมืองน้องอย่าง “ลาว” ได้รับการกล่าวถึงกันเยอะ

ขณะที่นักเตะอีกหลาย แม้ไม่ได้ถูกเอื้อนเอ่ยถึงสักเท่าไหร่ แต่ต้องยอมรับว่า ฟอร์มที่ “ห้าวเป้ง” ของทัพ “เสือป่าราชา” มีอีกหลายคนที่เป็นนักเตะประเภท “ปิดทอง” หลังองค์พระปฏิมา 

“ณัฐพล วรสุทธิ์” เด็กหนุ่มผู้ลืมตาดูโลกเมื่อปี 21 ปีที่แล้วคือ 1 ในนั้น ฤดูกาลที่ผ่านมา “เจ้าเก๋า” ลงยืนประจำการอยู่แดนกลางแทบจะทุกนัด

ไม่ใช่แค่ตัวหลักของทีม แต่ฟอร์มของเด็กน้อยที่เกิดและเติบโตในกรุงเทพมหานคร “ไฉไล” ชนิดที่เป็น 1 ในดวงใจของสาวก “เสือป่าราชา”

ยิงก็ได้ ส่งก็ดี เล่นได้ทั้ง “เชิงรุก” และ “เชิงรับ” ตรงตามตำรับ “ครบเครื่อง” เพียงแต่ชื่อเสียงเรียงนามอาจไม่เป็นที่รู้จัก เมื่อเขาเริ่มต้น “วิชาชีพ” ในลีกระดับล่างอย่าง “ไทยลีก 4”

“เจ้าเก๋า” ไม่มีดีกรี โปรไฟล์อะไรหนาแน่น เขาเป็นเด็กที่ซึบซับและรับรู้วิทยายุทธฟุตบอลจาก “ผู้เป็นพ่อ” ติดสอยห้อยตามตั้งแต่ยังไม่เข้าชั้นประถมศึกษา

ในวัย 6 ขวบ เขาเดินหวดลูกฟุตบอล ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมา “Destiny” ในฟุตบอลของเจ้าตัวก็เริ่มขึ้น คุณพ่อส่งไปเรียนในอะคาเดมี่ของ “โค้ชธง” ผู้เป็นบรมกุนซือของเขาในอีก 13 ปีต่อมา

ในวัยมัธยมศึกษา เขาได้อยู่ในสถานอนุบาลแข้งชื่อดัง ทั้ง “หนองจอกพิทยานุสรณ์” และ “แม่รำเพย” โรงเรียนเทพศิรินทร์

“เจ้าเก๋า” เคยอกหักกับการคัดตัวทีมชาติรุ่น 19 ปี ก่อนจะมีโอกาสไปฝึกปรือต่อที่ “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” แต่ทุกอย่างไม่ได้งดงาม หลังผ่าน 6 เดือน พันธนาการของเขากับ “แข้งเทพ” ก็สิ้นสุดลง หลังไร้วี่แววสัญญาฉบับใหม่

กลายเป็นนักเตะ “ฟรีเอเย่นต์” ตั้งแต่วัยบรรพชา มันดูจะโหดร้ายทารุณเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับได้ แต่ช่วงที่ไร้สังกัด “เจ้าเก๋า” ยังคงฝึกหัดกีฬาที่ตัวเองคลั่งไคล้ ไม่ได้จำนนต่อ “โชคชะตา”

แล้วเหมือน “ฟ้า” กำหนดให้เขาต้องอยู่ในการบ่มเพาะของ “โค้ชธง” หลังจากนครปฐมต้องคืนสู่สามัญมาเล่นในระดับล่างสุด พวกเขาใช้วิธีการเปิดคัดตัวเป็นอีกทางทางเลือกในการ “ซ่อมสุมกำลัง”

“เจ้าเก๋า” ไม่รอรีที่จะมาสำแดงเดชต่อหน้า “ครูคนแรก” ก่อนที่ “นครปฐม” จะยื่นสัญญาโดยไม่ชักช้าเช่นกัน

ในวัย 21 ขวบ เขาไม่เคยแม้แต่คิดด้วยซ้ำว่าจะแบ่งแย่งตัวจริงกับนักเตะชื่อดังในทีม แต่ “ครูธง” ก็ไว้ใจไอ้หนุ่มน้อยคนนี้โดยความเชื่อมั่น

แม้จะเป็นละอ่อนในโลกฟุตบอล แต่ฟอร์มในสนามกลับทำได้เหมือน “ชื่อเล่น”

ในช่วง “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ เป็นเฮดโค้ชยู 21 “เจ้าเก๋า” เป็นเด็กจาไทยลีก 4 คนเดียวที่ติดทีมชาติ ในนัดอุ่นเครื่องกับ “ฮ่องกง”

ในสังเวียนไทยลีก 3 ท่ามกลางผู้เล่นที่ระดับฝีมือสูงขึ้นกว่าปีก่อน ดูเหมือนว่า “โค้ชธง” จะยังไว้ใจลูกศิษย์รายนี้ให้ยืนประจำการ

และเมื่อมันใกล้หูใกล้ตาวงการฟุตบอลมากขึ้น ไม่แน่จาก “ขาจร” ทีมชาติ ที่โค้ชเรียกไป “เทสต์”

วันหนึ่งมันอาจเป็น “เรื่องประจำ” นอกจากรับใช้ต้นสังกัดก็เป็นได้.

---

เรียบเรียงโดย : วนิลลาสกาย

ขอบคุณภาพ : เพจ NakhonpathomUnited