• Home
  • News
  • ปีแรกในแดนสยาม กับ มือกาวเบอร์ 1 ทีมชาติสิงคโปร์ “อิซวาน มะห์บูด”

ปีแรกในแดนสยาม กับ มือกาวเบอร์ 1 ทีมชาติสิงคโปร์ “อิซวาน มะห์บูด”

By on October 12, 2018 0 8937 Views

DST.News : “สิงคโปร์” ประเทศเล็กๆ หนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก แม้พวกเขาจะไม่มีบทบาทมากนักใน ฟุตบอลเวทีระดับโลก หรือ ระดับทวีป

แต่ในระดับภูมิภาค พวกเขาเป็นหนึ่งในที่ประสบความสำเร็จพอสมควร จากแชมป์ ไทเกอร์ คัพ(ชื่อเดิม) หรือ เอเอฟซี ซูซูกิ คัพ 2 สมัย ในปี 2542 และ 2548 และเริ่มต่อกรกับชาติอื่นในภูมิภาคได้อย่างไม่เคอะเขิน

พวกเขาผลิตแข้งสิงคโปร์เก่งๆ ที่ไม่ได้โอนสัญชาติ และคนไทยรู้จักดี อย่าง “ไบฮักกี้ ไคซาน” กองหลังที่เคยอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ,“ฮัสสัน ซันนี่” มือกาว อาร์มี่ ยูไนเต็ด หรือ “ซูลฟาห์มี อาลีฟีน” มิดฟิลด์ ของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่มาค้าแข้งในเมืองไทย

วีรกรรมล่าสุดทีสะเทือนไปทั้งทวีป คือ การบุกไปเสมอ ทีมชาติญี่ปุ่น ที่เมืองไซตามะ ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ด้วยสกอร์ 0-0 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ซึ่งก่อนเกมทุกฝ่ายมองไปในทางเดียวกันว่า “ทีมลอดช่อง” คงจะ “เละ” กลับมาออกมาแน่นอน

และผลคงจะเป็นอย่างนั้น หากชายที่ยืนอยู่หน้าปากประตูของพวกของไม่ได้ชื่อว่า “อิซวาน มะห์บูด” มือกาวหมายเลข 1 ผู้เบียด “ฮัสสัน ซันนี่” ไปนั่งอยู่ข้างสนาม เกมนั้น เจ้าตัวในวัย 25 ปี เซฟไปทั้ง หมด “18” ครั้ง จนพาทีมควัก 1 แต้มสำคัญจากทีมทีดีที่สุดในเอเชียมาได้
ในฤดูกาล 2018 เจ้าตัวเลือกความท้ายทายใหม่ โดยย้ายมาค้าแข้งกับ “พญาไก่ชน” หนองบัวพิชญ เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของไทยลีก 2 แม้พวกเขาจะไม่ได้เลื่อนชั้น แต่ก็เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด เพียง 25 ลูกเท่านั้น

ล่าสุด มือกาวเบอร์ 1 แดนลอดช่อง ได้ออกมาเผยถึงความพอใจกับปีแรกบน “แผ่นดินสยาม” กับ Dailysoccerthailand

“ฤดูกาลแรกในประเทศไทยค่อนข้างดีทีเดียว แม้ผมต้องปรับตัวกับการใช้ชีวิตในประเทศใหม่พอสมควร เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมย้ายมาค้าแข้งนอกประเทศสิงคโปร์,แต่ทีงานหนองบัว พิชญ ทั้งผู้บริหาร สต๊าฟโค้ช นักเตะ และกองเชียร์ ช่วยให้ผมปรับตัวและมีฟอร์มการเล่นที่ดีได้ ผมต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ อย่างไรก็ตาม ต้นฤดูกาลเรามีเป้าหมายคือการเลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก 1 แต่นี่เป็นเพียงปีที่ 2 ของเราบนเวทีไทยลีก 2 เท่านั้น ผมหวังว่าปีหน้าเราจะทำผลงานให้ดีขึ้นและเลื่อนชั้นได้สำเร็จครับ”

ก่อนหน้าที่เจ้าตัว จะย้ายมาเล่นให้กับทีมดังแดนอีสาน เจ้าตัวผ่านการค้าแข้งกับสโมสรดังในสิงคโปร์ มาหลายทีม ทั้ง “ยัง ไลออนส์”,“ไลออน ทเวลฟ์” หรือ “แทมปิเนสส์ โรเวอร์”

“อิซวาน” เล่าให้ฟังถึงความแตกต่างระหว่างลีกฟุตบอลทั้ง 2 ประเทศว่า “ทั้ง 2 ลีกมันยากทั้งคู่แหละครับ แต่ในสิงคโปร์คนอาจจะรู้จักผมดีอยู่แล้ว แต่ในไทย ผมมาในฐานะนักฟุตบอลต่างชาติ ผมต้องทุ่มเทเป็นพิเศษ ในตอนซ้อม เช่นเดียวกับตอนแข่งขัน เพื่อพิสูจน์ให้ทีมงานสต๊าฟโค้ชเห็นว่า ผมมีดีพอ จนพวกเขาสามารถไว้ใจให้ผมเป็นตัวจริงได้ ครับ นั่นคือสิ่งที่แตกต่าง ส่วนที่ดีที่สุดคือเรื่องนี้ช่วยให้ผมเป็นนักฟุตบอลที่ดีขึ้นด้วย”

และผลงานที่เยี่ยมยอดในฤดูกาล 2018 ทำให้ “พญาไก่ชน” เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด ในไทยลีก 2 คือ  เสียประตูรวม 25 ประตู ขณะที่เกมในบ้าน ทำเสียไปเพียง   8 ประตู แต่ “นายทวารมือหนึ่ง พญาไก่ชน” เขามองว่าไม่ใช่แค่ผลงานของเขาเท่านั้น แต่เป็นการร่วมมือ ร่วมแรงและร่วมใจทั้งหมดของเพื่อนร่วมทีม

“ทีมเวิร์ค และ การสื่อสารระหว่างกัน สำคัญที่สุดครับ อีกอย่างคือ สโมสรเราเล่นเกมรับกันทั้งทีม ไม่มีใครได้รับอภิสิทธิ์ให้เก็บแรงไว้ครับ แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย ความคุ้นเคยในการฝึกซ้อม การไว้ใจเพื่อนร่วมทีมว่าเขาจะทำหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบได้ดีที่สุด โดยเฉพาะเกมรับ ต่อให้คุณทำดีมาทั้งเกมจะไม่มีคนพูดถึงเลย แต่เมื่อคุณพลาดครั้งเดียว มันคือ หายนะ ผมจึงพยายามโฟกัสกันตลอดเวลา”

“อิซวาน” ยังบอกถึงจุดเด่นของนักเตะจากสิงคโปร์ และกระตุ้นให้เพื่อนๆออกมาหาความท้าทายใหม่ ด้วยว่า “ประเทศสิงคโปร์มีนักเตะดีๆ มากมาย นอกจากทักษะแล้ว จุดเด่นแรกของพวกเราคือ ระเบียบวินัย และความเป็นมืออาชีพครับ นักเตะคนอื่นๆควรออกมาหาประสบการณ์นอกประเทศ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เร็วที่สุด และทำให้ชาวต่างชาติรู้ว่า นักเตะสิงคโปร์มีดียังไง สำหรับทีมชาติชุดนี้ ผมมองว่า มีหลายคนดีพอจะเล่นในไทยลีก 1 และ 2 ครับ แต่ก็ขึ้นกับพวกเขาว่า พร้อมหรือยัง”

สุดท้าย เขาบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวต้องมาเล่นในตำแหน่ง ที่คนชอบเตะบอล ร้อง “ยี้” มากที่สุด

“แรกเลย ผมไม่ได้เป็นคนเลือกที่จะเล่นตำแหน่งนี้หรอกนะ ผมเริ่มต้นด้วยการเล่นกองหน้าแบบที่เด็กๆทุกคนชอบ ใครๆก็อยากทำประตูได้ใช่ไหมละ แต่มีเกมอุ่นเครื่องเกมหนึ่ง ที่โค้ชลองจับผมไปเล่นเป็นผู้รักษาประตู แล้วประจวบกับที่ว่า มีแมวมองจากอคาเดมี่ ทีมชาติมาดูด้วยพอดี จากนั้นผมก็ไม่เคยได้ไปเล่นตำแหน่งอื่นอีกเลยครับ” 

ปัจจุบันเจ้าตัว อายุเพียง 28 ปี เท่านั้น ถือว่ายังมีเวลาอีกยาวไกลในเส้นทางค้าแข้ง และแม้จะมีส่วนสูง 179 ซึ่งถือว่า น้อยในตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่ก็ถูกทดแทนด้วย ปฏิกริยาตอบโต้ที่รวดเร็ว ทำให้เจ้าตัวมีสไตล์การเล่นคล้าย กับ “อิเคร์ กาซิยาส” หรือ “ดาวิด ออสปิน่า”

ไม่แน่ว่า ในฤดูกาลหน้า “อิซวาน มะห์บูด” นี่แหละ จะเป็นกำลังสำคัญ พา “พญาไก่ชน” หักด่าน เสือ สิงห์ กระทิง แรด เลื่อนชั้น “เพราะเกมรับ” ก็….เป็น….ได้.


ขอบคุณ สโมสรฟุตบอลหนองบัวพิชญ เอฟซี

By ใบไม้ห้าแฉก

  News
Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *