เดือดกว่านี้ไม่มีแล้ว..”ลูเคียน” ยก แมตซ์เจ๊า “กิเลน” ที่สุดในชีวิตค้าแข้ง
DST.News : ก่อนเริ่มไทยลีก ฤดูกาล 2561 “โลมาน้ำเงิน” พัทยา ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่หลายคนมองว่า พวกเขาสุ่มเสี่ยงไม่น้อยต่อการตกชั้น แต่ภายหลังจบการแข่งขันไทยลีกนัดที่ 33 พวกเขากลับรั้งอยู่ที่ อันดับ 8 ของตาราง
อยู่เหนือ ยักษ์ร่วมจังหวัดอย่าง “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี 1 อันดับ มีแต้มมากว่า 1 แต้ม
หนึ่งในสาเหตุที่พวกเขาไม่ต้องตาเหลือก ดิ้นรนหนีตกชั้น มาจาก ฟอร์มการเล่นของ “ลูเคียน อเราโฆ่ เด อัลเมด้า” กองหน้าป้ายแดง ที่ย้ายมาจาก “บูซาน ไอพาร์ค” ทีมดังของ เค-ลีก เกาหลีใต้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ฤดูกาลนี้ “ลูเคียน” กดไปแล้ว 17 ประตู และทำอีก 4 แอสซิสต์ในไทยลีก และเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกไปเจ๊า “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึง เอสซีจี สเตเดียม แบบสุดมันส์ด้วยสกอร์ 5-5 เจ้าตัวคงจะเป็นพระเอกของเกมไปแล้ว หากทีมของเขาคว้าชัยชนะได้ ล่าสุดเจ้าตัวเปิดเผยถึงความบ้าคลั่งของเกมดังกล่าว กับ Dailysoccerthailand ว่า
“ผลการแข่งขันนัดล่าสุด มันบ้าสุดๆ นับตั้งแต่ผมเล่นบอลอาชีพมา ผมถือว่าแมตซ์เมืองทองฯ เป็นแมตซ์แรกเลยที่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ช่วงต้นเกมผมว่าผู้เล่นเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คงสมาธิหลุด โดยเฉพาะทางกราบซ้าย ประกอบกับที่ทีมเราเข้าฝักพอดี แม้สุดท้ายพวกเขาตีเสมอได้ แต่อย่างน้อยแฟนๆ ที่มาดูในสนามคงเอ็นจอยไปกับผลการแข่งขันแบบที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก และผมเชื่อว่า เป็นหนึ่งในแมตซ์ที่มีสีสันที่สุดในไทยลีกปีนี้ ในภาพรวม ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง และเพื่อนร่วมทีม เพราะเราแสดงให้เห็นแล้วว่า แม้เราจะเป็นทีมเล็กแต่เราก็มีดีพอจะต่อกรกับชั้นนำของลีกได้”
สำหรับสาเหตุ ที่ทำให้ “กองหน้าป้ายแดงโลมาน้ำเงิน” ระเบิดฟอร์มอย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ปีแรกที่มาค้าแข้งในไทยลีกนั้น เขาประเมิน ว่า เป็นเพราะส่วนร่วมของทุกฝ่ายในสโมสรฯ ตั้งแต่ ประธานสโมสร เพื่อนร่วมทีม สต๊าฟโค้ช ไปจนถึงแฟนบอล ที่การสนับสนุนและแสดงความเชื่อมั่นในตัวเขาอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้เป็นแรงขับสำคัญ
“ตอนต้นฤดูกาลผมไม่ได้ตั้งเป้าว่า จะต้องทำให้ได้กี่ประตู ผมคิดแค่ว่า ผมมาที่นี่เพื่อทำสิ่งที่ดีที่สุดให้สโมสรที่ไว้ใจผม ผมแค่จดจ่อกับหน้าที่ของตัวเอง ส่วนประตูที่ทำได้นั้นมันตามมาเองโดยธรรมชาติ”
นอกจากนั้นเขายังทิ้งท้าย ถึงการค้าแข้งในไทยลีก ด้วยว่า ฟุตบอลไทยลีกโตมาถูกทาง ดังนั้นการย้ายมาของบรรดานักเตะต่างชาติ จะช่วยยกระดับมาตรฐานการแข่งขัน ของลีกได้
“หากจำได้เกมที่บุรีรัมย์ เล่นกับ ชนบุ๊ค มอเตอร์ ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่า ทีมจากประเทศไทยสู้กับทีมชั้นนำระดับทวีปได้ แต่ข้อแตกต่างที่ผมเห็นชัดระหว่าง ไทยลีก และ เคลีก คือ ในเกาหลีใต้ พวกเขากวดขันเรื่องเทคนิคส่วนตัว และระเบียบวินัย มากเป็นพิเศษ การแข่งขันจึงเข้มข้นมาก นอกจากนี้ก่อนการแข่ง พวกเขาจะเน้นการศึกษาคู่แข่งโดยการดูวิดีโอ จำนวนมาก นี่คือความแตกต่างของทั้ง 2 ลีก” กองหน้าวัย 26 ปีกล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณ สโมสรพัทยายูไนเต็ด
By ใบไม้ห้าแฉก