‘ผู้ล้างสถิติ’ ผูกปีแพ้ ‘กิเลน’ ‘ป๋อม’ สันติภาพ ราษฎร์นิยม

DST.Special Report : มันอาจไม่มีใครคาดคิดว่า “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่นตั้งแต่เปิด “เลกสอง” มา จะมา “คัมแบ็ก” ได้เอาในนัดเปิดรัง “เขาพลอง สเตเดี้ยม” พลิกนรก ชนะ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ 2-1

 

ก่อนเกมหักปีก “กิเลน” ชัยนาทไม่ชนะใครถึง 8 นัด พวกเขาประสบปัญหาในจุดที่เรียกว่า “วิบากกรรม” เสียด้วยซ้ำ “เดนิส อมาโต้” ลื่นล้มต้องใส่เฝือกที่คอ “เจ้าเช็ก” รัชนาท อรัญญไพโรจน์ มิดฟิลด์พรสวรรค์สูง ถูกแบน 1 นัด จากการสะสมใบเหลืองครบตามโควตา “เจ้าเบสท์” ชัชชน ใจรังสี ปิดเทอมยาวจากอาการบาดเจ็บ

ที่สำคัญ สถิติการเจอกันก่อนหน้านี้ “นกใหญ่” ผูกปีแพ้มาโดยตลอด หรืออย่างดีทำได้แค่แบ่งแต้ม ซึ่งมีเพียงครั้งเดียวที่ลูกทีมของ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย เอาชนะ “กิเลนผยอง” ได้ นั่นคือ ชัยชนะ ณ “เอสซีจี สเตเดี้ยม” เมื่อวันที่ 22 พ.ย.58 จากลูกยิงสุดสวยของ “หน่องคลาสสิก” จิตปัญญา ทิสุด อดีตแข้งขวัญใจสาวก “พิงค์เรนเจอร์”

ชัยชนะเหนือ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ “อีสานใต้” 1-0 เมื่อต้นปี เป็นครั้งแรกที่พวกเขา “ล้วงคองูเห่า” เพื่อลบคำค่อนแคะต่างๆ นานาว่า เป็นทีมลูกไล่ของ “เนวิน ชิดชอบ” ได้ แต่ใครจะไปเชื่อว่า “นกใหญ่” จะพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาก็เอาชนะ “คู่แค้นตลอดกาล” ของทีมแชมป์ไทยลีก 1 ล่าสุดได้เช่นเดียวกัน

ไม่แปลกใจที่ผลจะลงเอยแบบนั้น ตลอดทั้งเกม “ชัยนาท” วิ่งลืมตาย ประหนึ่งสงครามครั้งสุดท้ายที่ “เฮียรุท” อนุรุทธิ์ นาคาศัย รองประธานสโมสร ป่าวประกาศก่อนเกม

ไม่ว่าสถิติจะข่มกันมิดขนาดไหน หรืออันดับในตารางจะมีช่องว่างปานใด แต่เปิดเกมมา นักเตะชัยนาท “เปิดไฟต์” ใส่ทันที ราวกับมันเป็นแมตซ์สุดท้ายในชีวิต

การพลาดจุดโทษของ “ฟลอรองต์ ซินาม่า ปงโกลล์” ในช่วงท้ายเกม เป็นหลายคนอาจถอดใจกองเอาไว้ตรงนั้น แล้วก้มหน้ารับ “ชะตากรรม” ในช่วงเวลาที่เหลือ

แต่ “ขุนพลของเกจิวัดปากคลองมะขามเฒ่า” กับไม่ได้เป็นเยี่ยงนั้น พวกเขารู้ว่า วันนี้อัฒจันทร์สี่ทิศรอบสนามเขาพลอง มีลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย จาก 7 อำเภอ กว่า 5 พันคน ดั้นด้นมานั่งเอาใจช่วย “ลูกหลาน” เต็มพรืดไปหมด ซึ่งไม่ค่อยปรากฏมาก่อนในฤดูกาลนี้

ขนลุกทุกจังหวะที่ “ชัยนาท” ได้ประตู อันมาจากสิ่งเร้าที่เรียกว่า “เสียงเฮ” อันกึกก้อง ซึ่งยังแอบคิดว่า ถ้าแฟนบอลที่เขาพลองเต็มสนามแบบนี้ทุกเกมที่ผ่านมา เราอาจพูดได้ว่า “เขาพลอง” ไม่ใช่ “โรงทาน” ที่ใครจะเอาแชร์ หรือแย่งแต้มง่ายๆ เหมือนกัน

อีกจุดที่ไม่เอ่ยคงไม่ได้ ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของ “เจ้าป๋อม” สันติภาพ ราษฎร์นิยม นักเตะร่างเล็กผู้กดสกอร์ “แสงที่ปลายอุโมงค์” และบรรจงปั่นลูกเตะมุมให้ “เจ้าปิ่น” ปริญญา อู่ตะเภา ปาดหน้าผู้รักษาประตู เอาบอลไปซุกตาข่าย ล้างสถิติไม่เคยชนะ “เมืองทอง” ในบ้านตัวเองได้สำเร็จ

ไม่ใช่เพราะบนสกอร์บอร์ดปรากฏชื่อของ “สันติภาพ” หากแต่ตลอดทั้งเกม เด็กหนุ่มวัย 25 ปี วิ่งพล่านทั่วสนาม ราวกับปล่อยทุกอย่างที่มีในตัวลงในแมตซ์นี้

แล้วไม่ใช่แค่นัดนี้ ย้อนหลังดูเกมที่ผ่านมาๆ “เจ้าป๋อม” ยกระดับตัวเองเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม ไม่ว่านาทีแรกของเกมจะอยู่ในสนาม หรือมองเพื่อนอยู่ที่ซุ้มม้านั่ง

บางนัดวิ่งจนเป็นตะคริว ขณะที่บางเกมในฐานะผู้เล่นสำรอง เขาสามารถใช้ความเร็วและขยันลงมาสร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่งได้เสมอ

เชื่อหรือไม่ว่า นี่คือ นักเตะที่ “ชัยนาท” ไม่ต้องหว่านล้อม หรือยกขันหมากไป “สู่ขอ” แต่เป็นผู้เล่นที่มาคัดตัวกับชัยนาทเมื่อก่อนฤดูกาลเปิดฉาก แล้ว “ดาร์โก มามิช” เฮดโค้ช เซย์เยสที่จะให้ชัยนาทจรดน้ำหมึกกับผู้เล่นรายนี้

วันแรกในเขาพลอง น้อยคนจะรู้จักเขา หลายคนบ่นด้วยซ้ำว่า เหตุใดจึงเซ็นนักเตะประเภทลีกล่างมา แต่ตลอดฤดูกาล “เจ้าป๋อม” แสดงให้เห็นว่า แม้เขาจะมาจากไทยลีก 3 อย่าง “ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร” แต่ไม่ได้หมายความว่า ตรรกะที่ว่า เล่นไทยลีกไม่ได้ นั้นจะใช้ได้กับทุกคน

นักเตะสารพัดประโยชน์ ผู้ซึ่งเคยเป็นเด็กปั้นเมืองทอง และเด็กฝึกหัดของ “JMG ACADEME THAILAND” รุ่นเดียวกับ “วีรยุทธ กาเหย็ม” และ “วรนาท ทองเครือ” โลดแล่นมาแล้วหลายสโมสรในลีกรากหญ้า ไม่ว่าจะเป็นสมุทรสงคราม, ไทยฮอนด้า เอฟซี, พิษณุโลก เอฟซี, ตราด เอฟซี, อ่างทอง เอฟซี และไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร ใช้ลำแข้งและความมุ่งมั่นพิสูจน์ตัวเอง จนวันไหนที่ไม่เห็นเขาในสนาม แฟนบอลต้องถามถึง “สันติภาพ” อยู่ไหน!

ไม่ว่าบทส่งท้ายของ “ชัยนาท” ในฤดูกาลนี้จะเป็นอย่างไร แต่ “เจ้าป๋อม” ได้ทำให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นนักเตะประเภท “เกรดไทยลีก” และ “นกใหญ่” ควรจะรักษาผู้เล่นรายนี้เอาไว้

เพราะนี่คือ นักเตะที่ขยัน พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ที่สำคัญ เป็นนักเตะสไตล์ที่โค้ชส่วนใหญ่ชื่นชอบ นั่นคือ เล่นตามที่ผู้เป็นกุนซือ “ให้จ๊อบ” ไปได้

ไม่แปลกใจเลย ทำไม “อมาโต้” ถึงส่งเขาลงไปเป็นประจำไม่ว่าสถานะใดในวันนั้น.

 

---

เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ CHAINAT Football Club