“จงอาง” หวังแซง “โค้งท้าย” ลุ้นแชมป์แรกของ “โค้ชโจ้”

DST.Special Report : บรรยากาศที่สนาม อบจ.ขอนแก่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำเอานึกว่า บอลไทยลีกไม่ได้หยุดเตะซะอีก ก็ไม่ใช่อะไร เพราะบรรยากาศของแฟนบอล การบดเอาเป็นเอาตายของนักเตะในสังเวียนสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณภาพของเกมมันใกล้เคียงเอามากๆ

มันเป็นแมตซ์ระดับ 5 ดาว ของไทยลีก 4 ประจำสัปดาห์นี้เลยก็ว่าได้ เพราะการมาเจอกันระหว่าง “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ “นักรบเซไล” เมืองเลย ยูไนเต็ด เพลานี้มันถูกที่ถูกเวลาจริงๆ

“นักรบเซไล” นั้นครอง “จ่าฝูง” มาเป็นระยะเวลานานโข แรงเสมอต้นเสมอปลาย สว่างไสวกับการไปฎีกาในรอบแชมเปี้ยนลีกส์มาสักพักแล้ว

ขณะที่ “จงอางผยอง” ของกุนซือ 5 หลา “โค้ชโจ้” ศรายุทธ ชัยคำดี ในช่วงเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะผู้ฝึกสอนอาจขรุขระไปบ้างแรกๆ แต่เมื่อ “ปรับจูน” ทีมติด ต้องบอกว่า ฟอร์ม “โคตรสะเด่า”

ตอนต้นฤดูกาลยังเกาะอยู่แถวๆ 5 อันดับแรก แฟนๆ ยังลุ้นกันปัสสวะเหนียวเลยว่า ปีนี้จะได้ไปวัดกันในรอบแชมเปี้ยนลีกส์หรือไม่ แต่พอมาเลกสองปุ๊บ เป็นคนละเรื่องกันเลย

“จงอางผยอง” ค่อยๆ เก็บแต้มมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 เรื่องตั๋วไปเตะรอบแชมเปี้ยนลีกส์ คลายกังวลไปเลย ไปยืนรอกับ “นับเซไล” เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนอีสานแล้ว หลังโกยแต้มทิ้งอันดับ 3 ขาดวิ่น ไม่มีทางทัน

ฟอร์มลูกทีม “โค้ชโจ้” โหดปานไฉนหรอ ก็ลองย้อนรอยไปดู 7 นัดหลังสุด แล้วจะขออนุญาตใช้คำว่า “อำมหิต” แทน เนื่องจากเป็นประเภท “ไม่รักเสมอ”

7 นัด 21 แต้มเต็มแบบพูนๆ นั่นว่า “หฤห่าม” แล้ว ไปดูจำนวนลูกบอลที่ส่งผ่านเส้นประตูฝ่ายตรงข้าม เบ็ดเสร็จ 22 เมล็ด

การโคจรมาเจอกับ “นับรบเซไล” ในจังหวะที่บอลเหลือ 3 นัด แล้วก่อนเจอกันห่างแค่ 4 แต้ม แมตซ์นี้ในแง่เลื่อนชั้นอาจไม่มีความหมาย เพราะ “กอดคอ” กันไปรอบแชมเปี้ยนลีกส์เรียบร้อยแล้ว แต่ในมิติของ “ศักดิ์ศรี” และ “ถ้วยแชมป์” มันเอาเรื่องอยู่

ความคลั่งไคล้ และเหนียวแน่นแฟนบอลทั้งสองทีมนี้ ไม่ต้องพูดถึง แถมสไตล์บอลยังเน้น “เกมรุก” กันทั้งคู่ ยิงทะลุ 40 ประตูกันไปแล้วทั้งสองทีม

รูปเกมมันเลย “จั๋งหนับ” กันอย่างที่เห็น เป่านกหวีดปุ๊บ ไล่บดกันยับ แถมยังมีครบทุกรสใน 90 นาที ครึ่งแรกๆ อาจโนสกอร์ แต่ครึ่งหลังพลัน “นักรบเซไล” ออกนำได้ก่อน เท่านั้นแหละเหมือนไปกระตุ้นสารอะไรบางอย่างในร่างกายแฟนจงอ่างในสนาม ให้ร้องฮึ่มๆ กดประสาททีมเยือน

มัน “มันส์” ตรงมันได้ผลนี่แหละ พอพ้นนาทีที่ 70 แข้งจงอางไล่กดเอาประตูคืน 3 ลูกรวด จาก “JARDEL CAPISTRANO” หอกร่างใหญ่ 2 ลูก และปิดท้ายด้วยเทพนิมิต บุราณศรี ในช่วงทดเจ็บ ทำเอาเสียงเฮในสนาม อบจ.ขอนแก่น กระฮึ่มราวกับมีการจุดพลุในเทศกาลปีใหม่

ซิกเนเจอร์ที่ผู้บริหาร และแฟนบอลชอบพูดว่า “เล่นให้รู้ว่าที่นี่ไนเต็ด” มันเข้มขลังขึ้นมาทันทีในแมตซ์นี้

แล้วด้วยเหตุฉะนี้ทำให้ช่องว่างระหว่าง “ขอนแก่น” กับ “เมืองเลย” เหลือแค่แต้มเดียว และเหลืออีกแค่เพียง 2 เกมเท่านั้น ถ้า “ทัพเซไล” ไม่พลาดเลย ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าพลาด แล้ว “จงอางผยอง” ฉวยโอกาสได้ทั้งสองเกม อาจมีรายการ “แซง” แบบไม่ให้แก้ตัวได้

เกมที่เหลือ 2 นัดของ “ทัพเซไล” จะได้เล่นในบ้านกับนครราชสีมา ห้วยแถลงฯ และออกไปเยือน สุรินทร์ ซิตี้ ทีมหัวตารางที่ต้องการตั๋วไปเล่น ชปล. ส่วน “จงอางผยอง” ได้เล่นในบ้านทั้งหมด โดยจะเจอกับชูก้าโขงชีมูล และสกลนคร เอฟซี

สำหรับ “ขอนแก่น” แม้จะมีบางฝ่ายเรียกร้องให้พักตัวผู้เล่นเพื่อรอบต่อไป แต่ลึกๆ เชื่อว่า “โค้ชโจ้” อยากไปในฐานะแชมป์ไทยลีก 4 อีสานอยู่เหมือนกัน

อย่างน้อยมันก็เป็นเกียรติประวัติ สำหรับขวบปีแรกในฐานะผู้จัดการทีม และเพื่อศักดิ์ศรีคนขอนแก่น.

เรียบเรียงโดย : วนิลลา สกาย

ขอบคุณภาพ : เพจ KHON KAEN UNITED