- Home
- Special Report
- ‘อิชิอิ’ ชายผู้จุดเทียนเล่มแรก สู่การฟื้นฟู ‘กระแส’ ฟุตบอลไทยอีกครั้ง

‘อิชิอิ’ ชายผู้จุดเทียนเล่มแรก สู่การฟื้นฟู ‘กระแส’ ฟุตบอลไทยอีกครั้ง
เป็นความรู้สึกละม้ายคล้ายกับคนอื่นๆ นั่นคือ ‘เสียดาย’ แต่ ‘ไม่เสียใจ’ กับความปราชัยต่ออุซเบกิสถาน 1-2 สิ้นสุดเส้นทางเอเชียน คัพ แต่เพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ที่ว่า ‘เสียดาย’ เพราะเราสามารถต่อกรกับอีกหนึ่งมหาอำนาจทางลูกหนังแห่งเอเชียทวีปได้อย่างเมามัน
เราไม่ได้เป็นรองในแง่แท็กติก แต่เป็นรองในเรื่องเทคนิคและความแข็งแกร่งเท่านั้น
ขณะที่ ‘ทัศนคติ’ นักเตะ คือ ความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้ชัด
ในอดีตเวลาบอลโดนนำ พนังกั้นน้ำแตก เรามักจะรวนและคัมแบ็กกลับมาไม่ได้ แต่ในเกมกับอุซเบกิสถาน เรากลับสวมวิญญาณประหนึ่งเจ้าหนี้ ไล่ทวงเงินที่ถูกกู้ถูกยืมไป จนได้คืนมา 1-1
.
ไม่เพียงเท่านั้น เรายังอาศัยโมเมนตัมของเกมที่เปลี่ยนมาทางเรา ลุยขยี้อุซเบกิสถานต่อ หวังไปถึงประตูขึ้นนำ เพียงแต่มาโดนนำอีกหน ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่า ลูกยิงของเขามันเฉียบขาด ยากเกิน ‘ปฏิวัติ คำไหม’ จะปกป้องเอาไว้ได้
ขณะเดียวกัน หลังโดนนำ ‘ช้างศึก’ ยังพยายามไล่ทวงประตูคืนจนเสียงนกหวีด ชนิดที่อุซเบกิสถาน ออกอาการมวยวัด ไม่ต้องรักษาทรง เตะสาดออกจากพื้นที่อันตรายเพื่อรักษาสกอร์อย่างเดียว
สิ้นเสียงนกหวีด ไร้ซึ่งความโศกเศร้า-ก่นด่า เหมือนในอดีต มีแต่เสียงปรบมือจากแฟนบอลช้างศึกในสนาม กับบทสัมภาษณ์-โพสต์ ชื่นชม ขุนพลทีมชาติไทยและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ที่ไปสร้างเกียรติยศว่า ฟุตบอลเอเชียยังมี ‘ช้างหลับ’ ที่รอวันตื่นอยู่
ไร้คราบน้ำตา ไร้การหา ‘แพะ’ มารับบาป เหมือนวันวาน มีแต่ความภูมิใจมากมายก่ายกองที่ถาโถมเข้าใส่

ส่วนตัวมองว่า นี่คือ ‘ปฐมบท’ แห่งการปลุกฟีเวอร์ฟุตบอลไทยให้กลับมาอยู่ในความสนใจของประชาชนคนช้างศึกอีกครั้ง หลังเคยสนามแตก แห่กันแย่งซื้อบัตรเข้าไปชมมาเมื่อหลายปีมาแล้ว
‘มาซาทาดะ อิชิอิ’ กุนซือชาวญี่ปุ่น คือ ‘แสงเทียน’ ที่จุดประกายความหวังว่า เราจะกลับไปนั่งเชียร์บอลกันอย่างสนุกสนานอีกครั้ง
เราต้องรักษาบรรยากาศนี้ให้คงอยู่ต่อไป เพราะยังมีภารกิจฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ ช้างศึก’ เริ่มต้นได้ไม่ดีสักเท่าไหร่รออยู่
เราต้องรักษา ‘ทัศนคติ’ ที่ว่า เราไม่ได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเมื่อเจอกับยักษ์ใหญ่ให้ได้ ต้องจำความรู้สึกตอน ปะ ฉะ ดะ กับพวกแถวหน้าในเอเชียในเอเชียน คัพ ครั้งนี้ได้อย่างสูสีเอาไว้

การเล่นตามแท็กติกของโค้ช การเล่นอย่างมีระบบ ระเบียบวินัย ทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับทีมที่มีชนชั้นทางแรงกิ้งในฟีฟ่าเหนือกว่าได้
เราเห็นแล้วว่า ทำอย่างไรถึงจะสู้กับพวกเขาได้ และมีจุดไหนที่เราต้องโมดิฟายใหม่ เพื่อให้ดีกว่าเดิม
เรามีเวลาสำหรับนัดต่อไปในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
เพียงแต่ผู้บริหารสมาคม ตลอดจนบรรดาเจ้าของสโมสรต่างๆ ควรให้ความร่วมมือกับ ‘อิชิอิ’ ในเรื่องนี้ หากอยากเห็นฟุตบอลไทยพัฒนาไปข้างหน้า
จริงว่า ‘อิชิอิ’ ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกปราสาทงามให้เธอ หากแต่เขารู้วิธีการจะพาเราไปจุดนั้นได้อย่างไร
ฉะนั้น ควรซัพพอร์ตเขาอย่างเต็มที่ อย่าให้กุนซือดีๆ แบบนี้ต้องมาพังเพราะระบบบริหารจัดการแบบเดิมๆ ที่มัดขาเราไว้

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : เพจ ช้างศึก