- Home
- Special Report
- ‘สมชาย ชวยบุญชุม’ สู่สถานะ ‘มือปืนรับจ้าง’
‘สมชาย ชวยบุญชุม’ สู่สถานะ ‘มือปืนรับจ้าง’
DST.Special Report : สำหรับบางคน อาจมองว่า การที่ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม บรมกุนซือเลือดไทย ไม่ได้ไปต่อกับ “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ เอฟซี ต่อสู้บนลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า
ทั้งที่พาทีมเป็นแชมป์ไทยลีก 2 ด้วยสถิติพ่ายเพียงนัดเดียวทั้งฤดูกาลมัน “ทารุณหัวใจ” เกินไป
ยิ่งการที่ “น้าฉ่วย” เลือกที่จะไม่พูดอะไรเสียๆ หายๆ ให้แก่สโมสรที่กระทำเหมือน
เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลด้วยแล้ว ยิ่งเกิดความสงสาร
เคสของ “น้าฉ่วย” เหมือนกับการที่หลายสโมสรเลือกที่จะไม่ต่อสัญญา หรือปล่อยนักเตะที่ต่อสู้ฝ่าฟันจนพาทีมเลื่อนชั้นออกไป และเลือกไปช้อปนักเตะใหม่
ไม่แปลกที่จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะสังคมไทย เรายึดถือเรื่องบุญคุณ และให้ความสำคัญกับคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
หากแต่ในมุมกลับกัน ในมุมผู้บริหารที่เป็นคนได้-เสีย กับทุกๆ ผลประโยชน์และผลกระทบของทีม คนเหล่านี้ต้องการพัฒนาทีมไปข้างหน้า จึงจำเป็นต้องตัดมิติข้างต้นออกไป
แน่นอนว่า หลายสโมสรตัดสินใจถูก แต่เช่นเดียวกันก็มีอีกหลายสโมสรที่ตัดสินใจผิดพลาด “ของใหม่” ไม่ได้ดีกว่า “ของเก่า” ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผู้บริหารและทีมต้องรับสภาพกันไป
สำหรับ “น้าฉ่วย” แม้จะว่างงาน แต่เชื่อว่า ชีวิตหลังจากนี้คงไม่ได้อยู่บ้านเลี้ยงหลานแน่นอน เพราะหลายทีม โดยเฉพาะทีมจากลีกพระรอง หรือลีกสาม จ้องตาเป็นมัน
คำถามที่หลายคนสงสัยว่า “น้าฉ่วย” ดีไม่พอสำหรับลีกสูงสุดแล้วหรือ มันก็ต้องลงรายละเอียดไปอีกว่า
ดีในที่นี้ คือ ดีแบบใด เพราะการคุมหลายๆ ทีมในไทยลีก 1 ไม่ได้ก็ล้มเหลว
แต่ละทีมที่ “น้าฉ่วย” เคยคุมในไทยลีก 1 มักไม่ได้เป็นบิ๊กเนม ส่วนใหญ่เป็นสโมสรที่มีงบประมาณจำกัด และเกือบทุกทีม มักดิ้นรนหนีตกชั้นในทุกๆ ปี
ภารกิจที่ “น้าฉ่วย” ได้รับตอนคุมทีมในไทยลีก 1 เกือบๆ จะคล้าย “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก นั่นคือ เข้าไปเป็นม้ากลางศึกเพื่อกู้วิกฤติ
ถามว่า มันดีพอหรือไม่ คงต้องตอบว่า ถ้างบประมาณจำกัด “น้าฉ่วย” จะทำได้ตามมาตรฐานที่วัตถุในมือเอื้ออำนวย หรือถ้าต้องเข้าไปกู้วิกฤติ ก็ถือว่าพึ่งหวังได้
แต่สำหรับไทยลีก 2 ภารกิจของ “น้าฉ่วย” ต่างกับตอนไทยลีก 1 ริบรับ ที่นี่ผู้ชายที่ชื่อ “สมชาย ชวยบุญชุม” ตัวใหญ่และน่าเกรงขาม
ภารกิจในลีกพระรองของ “น้าฉ่วย” คือ การล่าแชมป์ เลื่อนชั้น ต่อให้งบประมาณจะมีจำกัดแค่ไหนก็ตาม ดูตอนอยู่ศรีสะเกษ เอฟซี โดนตัดแต้มแล้วตัดแต้มอีก แต่ยังพาทีมลุ้นเลื่อนชั้นถึงนัดสุดท้าย
เปรียบเทียบให้เห็นภาพฝีมือ “น้าฉ่วย” ในสายตาของผู้บริหารคือ อยู่ตรงกลาง ระหว่างท่อนล่างของตารางไทยลีก 1 กับหัวตารางไทยลีก 2
ดังนั้น “น้าฉ่วย” ยังคุมทีมไทยลีก 1 ได้มั้ย คำตอบคือ ยังได้อยู่ ขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของทีม
ถามว่า “น้าฉ่วย” เก่งมั้ย คำตอบคือ ถ้าไม่เก่งคงไม่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ แต่เก่งระดับไหนนั่นคือ อีกเรื่องหนึ่ง
บางทีการที่หนองบัว พิชญ เอฟซี เลือกจะแยกทางกับ “น้าฉ่วย” ก็มองอยากจะไปได้ไกลกว่าท่อนตารางล่างในไทยลีก 1 ก็เป็นได้
สำหรับภาพ “น้าฉ่วย” วันนี้ หากจะเปรียบคงไม่ต่างอะไรกับ “มือปืนรับจ้าง” คือ ไม่จ้างเข้ามากู้วิกฤติในไทยลีก 1 ก็จ้างเพื่อให้เลื่อนชั้น
ปิดจ๊อบก็แยกย้ายกันไป.
______________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : สโมสรหนองบัวพิชญ เอฟซี
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th