- Home
- Special Report
- อุ้ม ‘ชัยนาท-เชียงใหม่’ เลื่อนชั้น ถึงคิววัดกึ๋นที่ ‘สุโขทัย’
อุ้ม ‘ชัยนาท-เชียงใหม่’ เลื่อนชั้น ถึงคิววัดกึ๋นที่ ‘สุโขทัย’
DST.Special Report : หากไม่มีอุบัติเหตุ ‘เดนนิส อมาโต’ เฮดโค้ชเมืองเบียร์ จะทำหน้าที่คุมถ้ำค้างคาว
เพื่อเปิดปฏิบัติการพา ‘สุโขทัย เอฟซี’ กลับสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า
สำหรับ ‘อมาโต’ ถึงเวลานี้ เขากลายเป็นกุนซือที่ถูกจัดไปอยู่ในลิสต์ของ มือปืนพาเลื่อนชั้นในปีเดียว หลังเคยทำสำเร็จกับ ‘นกใหญ่พิฆาต’ ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่สามารถคัมแบ็กกลับไทยลีก 1 ได้ ในฐานะแชมป์
ขณะที่ฤดูกาลที่แล้ว แม้จะไม่ได้คุม ‘ช้างเผือก’ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แบบเต็มฤดูกาล เพราะเป็นม้ากลางศึก แต่ถือว่า ไม่ได้ล้มเหลว เพราะสามารถสานงานต่อโค้ชเก่า ไม่ต้องพาทีมดังจากแดนล้านนาไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟ
ในแง่ประสิทธิผล ถือว่า ‘อมาโต’ ทำสำเร็จกับ 2 ทีมในลีกพระรอง ที่เขาได้รับมอบหมายให้หามขึ้นไปเล่นไทยลีก 1 ให้ได้
ส่วนการคุมทีมบนลีกสูงสุด เป็นเรื่องที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป หลังไม่สามารถพาชัยนาท ฮอร์นบิล รอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาล 2562
ทว่า มันยังไม่ถือเป็นความล้มเหลวเสียทีเดียว หากมองถึงทรัพยากรและงบทำทีมของชัยนาท ฮอร์นบิล ณ วันนั้นที่เน้นผลักดันผู้เล่นเยาวชน และต่างชาติที่ค่าเหนื่อยไม่สูงชันมากนัก
ชัยนาท ฮอร์นบิล ในยุคของ ‘อมาโต’ เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เน้นใช้งานแบบสุรุ่ยสุร่าย แต่เป็นยุคที่หาของดีราคาถูกเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่อย่างไรก็ดี แม้ ‘อมาโต’ จะพาชัยนาทรอดตกชั้นไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งในระหว่างที่เขาทำ ‘นกใหญ่พิฆาต’ และถูกพูดถึงมากที่สุดคือ การเล่นบอลแบบเพรสซิ่ง กับการเค้นศักยภาพในตัวดาวรุ่งของทีมออกมา
บอลชัยนาทปีนั้น เล่นสนุก ดูไม่เบื่อ เพราะนักเตะวุ่นบีบพื้นที่คู่แข่ง จนกลายเป็นของแสลงทีมใหญ่ ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บรรดาบิ๊กเนมเอาชื่อไปทิ้งไว้ในถิ่นเขาพลอง สเตเดี้ยม หลังเจอเกมเพรสซิ่งฉบับ ‘อมาโต’
แม้จะแพ้ แต่แฟนชัยนาทต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แพ้แบบนี้ไม่เสียใจ เพราะถือว่า สู้เต็มที่ นักเตะวิ่งสู้ฟัด จนถึงขนาดมีการพูดกันว่า หาก ‘อมาโต’ มีทรัพยากรในมือดีกว่านี้ บางทีผลลัพธ์อาจไม่เป็นเช่นนั้น
‘อมาโต’ ยังเป็นส่วนสำคัญในการเค้นศักยภาพดาวรุ่งในทีมจนกลายเป็นผู้เล่นมีชื่อเสียงในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น จตุพัชร สัทธรรม ฉัตรมงคล ทองคีรี เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม
แต่ข้อจำกัดของบอลเพรสซิ่งคือ ต้องใช้พละกำลังค่อนข้างมาก หากผู้เล่นตัวจริงกับสำรองมีคุณภาพที่แตกต่างกันมาก ไม่สามารถทดแทนการขาดหายไปของคนใดคนหนึ่งได้ มันจะส่งผลในท้ายฤดูกาล เพราะร่างกายจะกรอบ
ขณะที่การคุมทีมเชียงใหม่ ยูไนเต็ด อาจไม่โดดเด่นเท่ากับตอนพาชัยนาท เลื่อนชั้นในฐานะแชมป์ แต่ต้องไม่ลืมว่า เขาไม่ได้มีเวลาทำความรู้จักคุ้นเคย หรือเห็นนักเตะในสนามซ้อมมาก่อนหน้านั้น ต่างจากที่ชัยนาท ที่ ‘อมาโต’ ดูแลเรื่องระบบเยาวชนมาก่อน เห็นมาตลอดว่า ใครเป็นใคร โดดเด่นอย่างไร
สำหรับการมาคุมถ้ำค้างคาวแบบรวดเร็วหลังฤดูกาลเพิ่งรูดม่านไม่นาน ถือเป็นข้อดีของสุโขทัย เอฟซี เพราะมันจะทำให้ ‘อมาโต’ มีเวลาเรียนรู้นักเตะมากขึ้น
เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ‘อมาโต’ ชอบนักเตะสไตล์วิ่งสู้ฟัด ต่อให้ฝีมือดีขนาดไหน แต่ถ้าเล่นแบบเอื้อยอ้าย ไม่ตอบสนองรูปแบบการเล่น นักเตะนั้นๆ มักจะถูกส่งลงเล่นในฐานะตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่
อีกจุดที่ ‘อมาโต’ ทำได้ดีคือ การเห็นถึงศักยภาพนักเตะว่า คนไหนสามารถพัฒนาไปเล่นในตำแหน่งอื่นได้อีก หรือเล่นมากกว่าได้ 1 ตำแหน่ง
‘อมาโต’ กับค้างคาวไฟจะมีบทสรุปอย่างไร เร็วเกินไปที่จะตอบ เพียงแต่ว่า สิ่งที่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดขึ้นกับสุโขทัย เอฟซีคือ บอลของเขาสนุกแน่นอน
และหากทรัพยากรในมือเขามีมากพอ ภารกิจเลื่อนชั้นกลับไทยลีก 1 ในปีเดียวก็น่าลุ้น
_____________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th