- Home
- Special Report
- พุธนี้ชี้ชะตา “ตั๋วตกชั้น” ใบสุดท้ายต้องถึงฎีกา “สุพรรณบุรี – สุโขทัย” หรือไม่
พุธนี้ชี้ชะตา “ตั๋วตกชั้น” ใบสุดท้ายต้องถึงฎีกา “สุพรรณบุรี – สุโขทัย” หรือไม่
DST.Special Report : ตั๋วไม่พึงปรารถนา เหลือเพียงใบเดียว หลัง 2 ทีมภาคตะวันออก ระยอง เอฟซี กับ ตราด เอฟซี ชิงหล่นไปเล่นลีกพระรองเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่า ตั๋วใบสุดท้ายนี้ ระหว่าง “ช้างศึกยุทธหัตถี” สุพรรณบุรี เอฟซี กับ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี มี 1 ทีมที่ได้มันไป เพื่อลงไปเล่นไทยลีก 2
เรียกว่า ไม่ “สุ” ไหน “สุ” หนึ่ง คืนสู่สามัญชัวร์ๆ
แต่ที่เหมือนมันกับหนังชีวิต ฟ้าลิขิตเอาไว้ล่วงหน้า คือ นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2 ทีมที่ยืนอยู่บนหุบเหว ต้องโคจรมาพบกัน
ปัจจุบัน สุโขทัย เตะไป 29 นัด อยู่อันดับ 13 มี 28 คะแนน ขณะที่ สุพรรณบุรี เตะไป 28 นัด อยู่อันดับ 14 มี 24 คะแนน มีช่องว่างห่างกัน 4 คะแนน แต่รายหลังเตะน้อยกว่า 1 นัด
โดย สุพรรณบุรี มีนัดตกค้างกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่จะฟาดแข้งกันในวันพุธที่ 24 มีนาคม ที่คุ้มขุนแผน เกมนี้ถือว่า สำคัญสำหรับช้างศึกยุทธหัตถีมากๆ
โดยนัดนี้ สุพรรณบุรี ได้เปรียบ เพราะจะได้เล่นในบ้าน หากแต่ “กว่างโซ้งมหาภัย” กำลังลุ้นพื้นที่ ACL ดังนั้น มันเป็นเกมที่หินผามากๆ
ซึ่งหาก สุพรรณบุรี สามารถ “เอาชนะ หรือเสมอ” กับ เชียงรายได้ ลมหายใจที่โรยริน ปางตายอยู่ในอาการโคม่า จะมีความหวังขึ้นมานิดๆ
โดยทางทฤษฎี หากสุพรรณบุรี เอาชนะเชียงรายได้ จะทำให้มี 27 แต้ม ตามหลังสุโขทัย เอฟซี 1 แต้ม หรือหากเสมอกับเชียงรายได้ จะทำให้มี 25 แต้ม ตามหลัง สุโขทัย 3 แต้ม แล้วไปฎีกากันในนัดสุดท้าย
โดยเกมสุดท้าย หากสุพรรณบุรีจะรอดได้มีสถานเดียวคือ ต้องเอาชนะสุโขทัยเท่านั้น เพราะเฮดทูเฮดของสุโขทัยดีกว่า โดยนัดแรกค้างคาวไฟเป็นฝ่ายกำชัยชนะมาได้ 1-0
แต่ถ้าเกมกับเชียงราย สุพรรณบุรีไม่มีแต้มติดมือเลย จะเป็นอันปิดฉากไทยลีก 1 ทันที ไม่ต้องฎีกากันให้เสียเวลาในนัดสุดท้าย
สำหรับ สุพรรณบุรี เคยร่วงไปเล่นในลีกพระรองมาแล้วเมื่อปี 2550 และเงียบหายไปหลายปี กระทั่งทะยานกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้ง เมื่อปี 2555 ในฐานะรองแชมป์ดิวิชั่น 1
ปีแรกของ สุพรรณบุรี ในการกลับสู่ลีกสูงสุด พวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการจบอันดับ 4 และหลังจากนั้นอีก 2 ฤดูกาล ยังเกาะอยู่หัวตารางตลอด โดยปี 2557 จบอันดับ 6 และปี 2558 จบอันดับ 3 ซึ่งได้สิทธิ์ไปแข่งขัน ACL รอบคัดเลือก
แต่สุดท้ายอดไป เพราะสนามเหย้าของสโมสรไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานของเอเอฟซี ทำให้ให้ชลบุรี เอฟซี ที่จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันแทน
ขณะที่ สุโขทัย เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 เมื่อปี 2558 ในฐานะทีมอันดับ 3 จากลีกพระรอง ขณะที่ผลงานปีแรกของพวกเขาดูดีมาก ด้วยการจบอันดับ 7 ของตารางคะแนน แต่ในปีต่อๆ มา ต้องกลายเป็นทีมหนีตายอยู่เนืองๆ โดยฤดูกาล 2560 จบอันดับ 5 ฤดูกาล 2561 จบอันดับ 11 และฤดูกาล 2562 จบอันดับ 12
สุโขทัย เคยได้ไปสัมผัสเวที ACL รอบเพลย์ออฟ เมื่อปี 2560 ในฐานะแชมป์เอฟเอคัพ (แชมป์ร่วม 4 ทีม)
ถือเป็น 2 ทีมจังหวัดที่มีสตอรี่พอสมควรบนลีกสูงสุด เพียงแต่ปีหน้าพวกเขาจะไม่ได้เล่นอยู่ลีกเดียวกันแน่นอน.
___________
เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Sukhothai FC, Suphanburi FC
ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th