‘มาริโอ ยูรอฟสกี้’ จาก ‘ผู้รังสรรค์’ ถึง ‘ผู้บัญชา’ ไม่ให้แย่กว่า ‘กาม่า’ ถือว่า ‘ผ่าน’

DST.Special Report : สิ่งหนึ่งที่ “อเล็กซานเดร กาม่า” งึมงำตลอดการควบ “กิเลน” คือ ใคร่อยากได้ผู้เล่นที่เปลี่ยนแปลงโฉมของเกมได้

เพราะมันคือ สิ่งที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเชียงราย ยูไนเต็ด สนองให้เขาได้

“กาม่า” ถูกจ้างวานเข้ามากอบกู้กิเลนตัวนี้เมื่อฤดูกาลก่อน และต้องคุมทีมต่อในวันที่ “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” ปรับกลยุทธ์การทำทีม จาก “สายเปย์” สู่ “การผลักดันดาวรุ่ง”

ความล้มเหลวของ “กาม่า” ที่เมืองทอง ถูกมองเป็น 2 ประเด็น คือ ทรัพยากรที่มีให้เขาในมือมีในปริมาณจำกัด

กับการจัดตัวผู้เล่นที่ “กาม่า” ถูกมองว่า เข็นแต่ “เด็กเส้น” ของตัวเองลง ขณะที่ตัวอื่นๆ นั่งฉีดยุงอยู่ที่ม้านั่งสำรอง

แต่ไม่ว่าเหตุผลไหนคือ คำตอบที่ถูก หรือ อาจจะถูกทุกข้อ เมื่อคนสองคนไม่มีความสุขที่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อ “กาม่า” และ “เมืองทอง” จึงหย่าร้างกันในทางฟุตบอล

ขณะที่คนควบ “กิเลน” ตัวใหม่ อย่าง “มาริโอ ยูรอฟสกี้” ตำนานเมืองทองเลือดมาซิโดเนีย ทำให้เอสซีจี สเตเดี้ยม กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งเพราะความสำเร็จในอดีตที่เขาเคยมอบให้ในฐานะผู้เล่น และดีเอ็นเอของกิเลนที่ยังคงแล่นพล่านอยู่ในเส้นเลือดทั่วร่างกาย

“มาริโอ” คือ คนที่อยู่ในหน้าแรกๆ ของตำนานกิเลนผยองเล่มนี้

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ความกระชุ่มกระชวยจะกลับคืนเข้าสู่ความรู้สึกแฟนบอลในชั่วขณะที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

แน่นอนว่า สิ่งที่ “มาริโอ” และอดีตตำนานกิเลนอีกคนอย่าง “ดานโญ่ เซียก้า” ทีมงานของเขา ได้เสกมันเกิดขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้ประเดิมคุมทีมอย่างเป็นทางการคือ “สปิริต”

ฝีมือ – คุณภาพ ของ 2 ดาวเตะยุครุ่งเรือง เป็นที่ยอมรับในหมู่พ่อแข้งรุ่นใหม่ อย่างน้อย “การมีใจ” ย่อมเป็นกล้าไม้เพื่อนำไปสู่การเติบโตในเรื่องอื่นๆ

บอร์ดบริหารเมืองทอง ระบุว่า “มาริโอ” รู้ปรัชญาการเล่นของสโมสรดีที่เน้น “เกมรุก” ประกอบกับเขาเคยเป็นดาวเตะในแผนกคุกคามศัตรู ดังนั้น มันจึงตอบโจทย์สำหรับการมอบตำแหน่ง “ผู้ควบกิเลน” คนใหม่ให้

“มาริโอ” เองก็คงอยากจะตอบสนอง “เจ้านาย” และ “แฟนบอล” ด้วยการประจันหน้ากับคู่แข่งแบบดุดัน สลัดความเหยาะแหยะในช่วงที่ผ่านมาให้หายไป

แต่ “ความต้องการ” จะได้รับการขานรับแบบมีรูปธรรมในสนามหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ไม่อยากให้ทุกคนคาดหวัง และทุ่มความกดดันใส่ “มาริโอ” มากนัก อย่าลืมว่า แม้เขาจะรู้จักทีมนี้ดี เข้าใจวิสัยทัศน์ผู้บริหาร และความปรารถนาของสาวกกิเลนก็ตาม

แต่เมืองทองวันนี้ กับวันที่เขายังเป็นผู้เล่นมีอะไรๆ มันมีอะไรหลายอย่าง “ไม่เหมือนเดิม”

ปัจจุบันสโมสรเน้นผลักดันเยาวชน งดจับจ่ายใช้สอยผู้เล่นต่างชาติที่มีมูลค่าในท้องตลาดสูง ขณะที่ดาวเตะต่างชาติไม่ได้มีความแตกต่างกับของทีมอื่นๆ สักเท่าไหร่ ต่างจากแต่ก่อน

สถานการณ์ของสโมสร ณ ขณะนี้ไม่ได้สู้ดี การมาของ“มาริโอ” จึงเพื่อกอบกู้ ไม่ใช่เพื่อการไล่ล่า

หน้าที่ของเขาคือ การทำให้กิเลนกลับมาดุดัน สมกับความเป็นยักษ์ใหญ่ ไม่ใช่ทำตัวสูสีกับทีมระดับเล็กๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา

“กาม่า” เป็นยอดโค้ชเบอร์ต้นๆ ของไทย ยังควบกิเลนตัวนี้ขึ้นเขาไม่ขึ้น ขณะที่ “มาริโอ” เพิ่งจะคุมฟุตบอลชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต

ดังนั้น เขาแค่ไม่ทำให้แย่กว่า “กาม่า” ก็น่าจะถือว่าพอแล้ว.

___________

เรียบเรียงโดย : วนิลาสกาย
ขอบคุณภาพ : Muangthong United FC

ติดตามช่องทางข่าวสาร-เสนอแนะ ติชม และร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเราได้ที่…​
Fb : www.facebook.com/dailysoccerthailand
Twitter : dailysoccer2017
IG : dailysoccerthailand
Line : @dailysoccerth
Website : http://dailysoccer.in.th